ถามแพทย์

  • เวียนหัวบ่อย เป็นมา 2-3 เดือน มีอาการแขนขาไม่มีแรงร่วมด้วย ไปหาหมอ ได้ยาทาน ไม่ดีขึ้น อันตรายไหม

  •  numfah
    สมาชิก
    ขอสอบถามคุณหมอคะ พอดีเวียนหัวบ่อยมาก เป็นมาประมาณ 2-3 เดือนแล้ว มีอาการแทบทุกวัน เวลาเป็นจะมีอาการแขนขาไม่มีแรงร่วมด้วย ไปหาหมอมาบ้างแล้วแต่คุนหมอก็จะให้ยารักษาอาการวิงเวียนศรีษะมาตลอด แต่รับประทานก็ไม่หาย อยากสอบถามว่าอาการที่เป็นจะอันตรายไหมคะ แล้วอาการแบบนี้สามารถตรวจMRI ได้ไหมคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ numfah,

                        อาการเวียนหัว แบ่งออกเป็น

                       1. กลุ่มที่มีอาการมึนงง มึนหัว (dizziness) อาจรู้สึกเหมือนศีรษะเบาๆ ลอยๆ คล้ายจะหน้ามืด แต่ไม่มีอาการบ้านหมุน หรือสิ่งรอบตัวหมุน มักสัมพันธ์กับแรงดันเลือดและปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ สาเหตุได้แก่

                         - การเปลี่ยนท่าทางเร็วไป เช่นนั่งหรือนอนอยู่แล้วลุกขึ้นทันที มักพบในผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ 

                         - จากการขาดน้ำในร่างกาย เช่น ไข้ ท้องเสีย อาเจียน เสียเลือดประจำเดือนมากกว่าปกติ

                         - มีภาวะโลหิตจาง ภาวะเกร็ดเลือดสูง

                         - เป็นอาการร่วมของโรคอื่นๆ เช่น ไข้หวัด ภูมิแพ้ 

                         - จากความเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ

                     2. อาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุน (vertigo) คืออาการที่รู้สึกเหมือนสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุนได้ แม้ว่าจะยืนหรือนั่งอยู่กับที่ หรือตัวเองหมุน ทั้งที่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ซึ่งอาจทำมีเดินเซ ล้ม หรือทรงตัวไม่ได้ รวมไปถึงรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของลูกตา ตากระตุก และอาการเกี่ยวกับการได้ยินเสียง เช่น หูอื้อ เสียงดังรบกวนในหู  สาเหตุได้แก่

                         - โรคของหู เช่น ตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด หรือ โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน (BPPV) โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน  (Meniere's Disease) หูชั้นในอักเสบ (labyrinthitis) จากการติดเชื้อของหูชั้นกลาง หรือเป็นภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อซิฟิลิส ไวรัสต่างๆ การใช้ยาบางชนิดที่มีผลต่อระบบประสาททรงตัวในหูชั้นใน เป็นต้น

                        - เนื้องอกของเส้นประสาทหู (vestibular schwannoma)

                        - เนื้องอกในสมอง

                        - ความผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิตที่ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองรวมถึงระบบประสาททรงตัวไม่พอ โดยจะเกิดในผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง สูบบุหรี่ เป็นเบาหวาน  หัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคกระดูกคอเสื่อม เป็นต้น

                          ในเบื้องต้นควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด ดื่มน้ำเยอะๆ เปลี่ยนท่าเวลานั่งหรือนอนช้าๆ หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาเฟอีน เป็นต้น หากยังคงมีอาการเวียนหัวต่อเนื่อง แม้จะทานยารกัษาอาการเวียนหัวแล้วก็ตาม ควรกลับไปพบแพทย์เฉพาะทางด้ายอายุกรรมอีกครั้ง เพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมค่ะ ซึ่งหากตรวจแล้วคาดว่าอาจมีเนื้องอกของเส้นประสาทหู หรือเนื้องอกในสมอง จึงจะตรวจเพิ่มเติมด้วยคลื่นแม่เหล็กต่อไป (MRI) แต่หากคาดว่าเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ก็ต้องตรวจด้วยวิธีอื่นๆ ค่ะ