ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ ใช้ถุงยางอนามัย ต่อมามีไข้ อ่อนเพลีย ปวดตามกระดูก เป็นเพราะท้องหรือติดเชื้อ

  •  sukasa123
    สมาชิก
    คือผมกับแฟนได้มีเพสสัมพันธ์กันมา 5 ครั้ง เองครับ คือครั้งที่ 5 นั้น แฟนผมหลังมีเพสสัมพันเสร็จก็ตรวจเช็กถุงยางตามปกติ ถุงยางก็ไม่รัว ไม่แตก แต่พอกลับเข้าห้องมาแฟนมีอาการตัวร้อนเป็นไข้หวัด ไม่ไอ ไมมีน้ำมูกแต่อ่อนเพลีย ปวดกระดูกจากขอตูดถึงหลัง ผมก็ออกไปซื้อยา ไทเลน้อน500 กับ ฟ้าทะรายโจร มาพร้อมกันขนมเพือให้แฟนกันอาการก็ดีขึ้นนึดนึกแล้วผมก็ไปหัดขี่ มอไซ แฟนผมก็รู้สึกแบบว่าน่าจะหายไปเยอะ แต่พอ ขี่เสร็จกลับเข้าบ้านเล่นกีต้าพอเล่นเสร็จจะนอนแฟนก็มีอาการอีกรอบ ผมก็ลองเอายาซาร่าเมดเดียว แต่พอเช้าอาการยิ่งหนังขึ้น มันเกิดจากอาการท้องหรือติดเชื้ออะไรอะป่าวครับตอบด้วยนะครับบบขอละครับผมเป็นห่วงแฟน
    sukasa123  sukasa123
    สมาชิก
    ตอบด้วนนะครับหมอ

    สวัสดีค่ะ คุณ sukasa123,

                     อาการมีไข้ อ่อนเพลีย ปวดกระดูก น่าจะเป็นอาการที่เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งอาจเป็นโรคติดเชื้อใดก็ได้ เนื่องจากอาการที่เป็นอยู่ยังไม่มีอาการอื่นใดๆ ที่จำเพาะ จึงยังไม่อาจบอกได้ว่ามีการติดเชื้อที่บริเวณใด แนะนำให้สังเกตอาการไปก่อนค่ะ ในเบื้องต้นก็ให้ทานยาลดไข้ แก้ปวด ซึ่งยาไทลินอล ที่ซื้อมาก็สามารถทานได้ค่ะ โดยให้ทานครั้งละ 1 เม็ด ห่างกันไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง และควรดื่มน้ำเยอะๆ พักผ่อนให้เพียงพอ หากทานยาแล้วยังคงมีไข้สูงหรือมีอาการอื่นๆ เพิ่มเติม ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ

                   อาการดังกล่าวที่เป็นอยู่นั้น ไม่ได้เป็นอาการของการตั้งครรภ์ค่ะ อาการของการตั้งครรภ์ที่สำคัญคือ อาการขาดประจำเดือนค่ะ 

                  การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยนั้น ไม่ได้ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% แม้จะใช้ถุงยางอย่างถูกต้อง ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2% ค่ะ