ถามแพทย์

  • กินยาคุมเพื่อหวังผลการรักษาสิว ตอนทานยาคุมก็ดีขึ้น พอหยุดทานได้ 6 เดือน สิวก็กลับมาเป็นเยอะ พอกลับมาทานใหม่ในยี่ห้อใหม่ สิวเป็นมากกว่าเดิม ควรทำอย่างไร

  •  Saori
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ คือหนูอยากปรึกษาเกี่ยวกับการทานยาคุมเพื่อรักษาสิวค่ะ ขอเกริ่นก่อนว่าหนูเริ่มเป็นสิวอุดตันและสิวอักเสบทั้งหน้าตอนช่วงจะขึ้นมหาลัยค่ะ พยายามรักษาทุกวิธีทั้งรักษาความสะอาด ทาครีม รวมถึงทานวิตามินแต่ไม่ดีขึ้นค่ะ จนขึ้นมหาลัยจึงตัดสินใจทานยาคุมค่ะเพราะคิดว่าการที่สิวเห่อน่าจะเกิดมาจากฮอร์โมน ยาคุมตัวแรกที่ทานคือ synphonia ค่ะ จนหมดแผงก็เปลี่ยนไปทานไดแอนมาตลอดค่ะเพราะราคาถูกกว่ามาก ทานได้ 3 เดือนสิวหายทั้งหมดและหน้าใสขึ้นมากค่ะ จึงตัดสินใจหยุดทาน ผ่านไปได้ 6 เดือนสิวกลับมาเห่อเต็มหน้าอีกค่ะ จึงกลับมาทานไดแอนอีก ก็ดีขึ้นจนเกือบหายสนิทภายใน 1-2 แผงเลยค่ะ จนช่วงที่ผ่านมาดันติดโควิดช่วงที่ยาคุมหมดแผงพอดี ออกไปซื้อไม่ได้ จึงหยุดทานไปเดือนนึงค่ะ รู้สึกสิวเริ่มจะขึ้นจึงจะไปซื้อยาคุมมาทานก็บอกเภสัชว่าเอาไดแอนเหมือนเดิมค่ะแต่เภสัชกลับแนะนำgovanaมาให้ค่ะโดยบอกว่าฮอร์โมนตัวเดียวกันกับไดแอนแต่ช่วยเรื่องผิวเรื่องสิวมากกว่าแถมไม่บวมน้ำด้วยและราคาถูกกว่า จึงเชื่อเภสัชและซื้อgovanaมาค่ะ แต่เท่าที่เอากลับมาศึกษาเพิ่มเติม เหมือนกับว่าตัว govana มีปริมาณฮอร์โมนที่น้อยกว่าไดแอน ทานแรกๆรู้สึกสิวขึ้นเพิ่มเรื่อยจึงคิดว่าเป็นกลไกจากที่เปลี่ยนยี่ห้อด้วยรึป่าว แต่ตอนนี้ทานมาครึ่งแผงแล้ว สิวไม่มีทีท่าจะหายเลยค่ะ แถมขึ้นเพิ่มเรื่อยๆ เกิดจากอะไรคะและสามารถแก้ไขอย่างไรได้บ้าง
    Saori  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Saori

    ยาคุมที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสตินช่วยรักษาสิวได้ เนื่องจากตัวยาจะไปลดระดับฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจนลง ทำให้การผลิตไขมันจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังลดลง ซึ่งช่วยลดการเกิดสิว

    ดังนั้นยาคุมที่จะเลือกใช้เพื่อช่วยลดการเกิดสิว ควรเป็นฮอร์โมนที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชายเช่นนอร์อิทินโดรนและเอทินิลเอสตราไดออล นอร์เจสทิเมทและเอทินิลเอสตราไดออล หรือ ดรอสไพริโนนและเอทินิลเอสตราไดออล  ซึ่งการเลือกใช้ยาแต่ละตัวถ้าไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไร ก็น่าจะเลือกใช้ได้ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาประกาศว่ายาคุมที่มีส่วนประกอบของดรอสไพริโนน อาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันได้ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

    หากไม่แน่ใจว่ายาตัวที่กินอยู่มีฤทธิ์รักษาสิวหรือไม่ หรือยังมีสิวเยอะอยู่ตลอด ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินเพิ่มเติมว่าเป็นสิวชนิดใด อาจจะใช้ยาทาร่วมไปด้วย หรือกินยาฆ่าเชื้อจะดีกว่าหรือไม่ กรณีที่ยาคุมจะได้ผลอาจจะเป็นสิวลักษณะที่เป็นสิวฮอร์โมนในเพศหญิง และถ้าจะกินยาเนื่องจากอาจต้องกินต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาพอสมควร ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ