ถามแพทย์

  • อายุ 17 ปี ไม่อยากไปโรงเรียน กลับบ้าเอาแต่ร้องไห้ เครียดจนคิดอยากตาย ครอบคร้วมีปัญหา

  •  chanan
    สมาชิก

    ตอบหน่อยนะคะหนูอายุ 17 ปีค่ะหนูอยากรู้ว่าสิ่งที่หนูเป็นมันคืออะไรหรือแค่อารมณ์ตามฮอร์โมนวัยรุ่นหนูเป็นแบบนี้มาสักพักแล้วค่ะ หนูไม่อยากไปโรงเรียนหนูรู้สึกโรงเรียนไม่น่าอยู่สำหรับหนูหนูอึดอัดหนูมั่นใจว่าหนูไม่ได้ขี้เกียจหนูอยากเรียนมาก เวลาไปโรงเรียนหนูนับแต่เวลากลับบ้านอย่างเดียว ไม่อยากไปโรงเรียน แต่พอกลับมาบ้านหนูเอาแต่ร้องให้ บางทีเครียดจนคิดถ้าตายไปก็คงดี เมื่อก่อนหนูไม่ใช่คนอ่อนแอ ตั้งแต่หนูเป็นแบบนี้ ร้องให้ง่ายมาก แต่ถ้าอยู่โรงเรียนหนูเงียบๆไม่คอยอยากพูดจากับใคร แต่ก่อนหน้านี้ครอบครัวหนูมีปัญหาแทบทุกวัน โวยวายทุกวัน พ่อกับแม่ก็เลิกกัน มันเกี่ยวกับสาเหตุแบบนี้ไหมค่ะ หนูเครียดหนูคิดจนร้องให้ถึงกับอาเจียน หนูไม่รู้จะเอายังใงกับชีวิตไม่มีทางออกเลย มันเป็นประมาณ อยากเรียนแต่ไม่อยากไปโรงเรียน อยากอยู่บ้านแต่ก็อยากเรียน หนูก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันค่ะ😭

    สวัสดีค่ะ คุณ chanan,

                         อาการไม่อยากไปโรงเรียน ร้องไห้ง่าย คิดอยากตาย อาจเกิดจากมีภาวะซึมเศร้าจากการมีเรื่องที่กระทบต่อจิตใจ ซึ่งรวมถึงปัญหาในครอบครัวด้วยแต่หากเป็นมานาน และส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน คือทำให้ไม่ไปโรงเรียน ก็อาจโรคซึมเศร้าได้ ซึ่งโรคนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ดังนี้ ได้แก่

                        1.อารมณ์เปลี่ยนไป คือกลายเป็นคนเศร้าสร้อย หดหู่ ไม่แจ่มใส ไม่สดชื่น สะเทือนใจง่าย เบื่อหน่ายไปหมดทุกสิ่งอย่าง รู้สึกไม่มีความสุข บางคนอาจหงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย อารมณ์ร้อนขึ้น 

                       2. ความคิดเปลี่ยนไป มองอะไรก็รู้สึกแย่ไปหมด  มองไม่เห็นอนาคต หมดหวัง ท้อแท้ รู้สึกตนเองไร้ค่า ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง รู้สึกเป็นภาระกับคนอื่น คิดถึงเรื่องการตายอยู่บ่อยๆ หรืออาจถึงขั้นวางแผนการตายและทำร้ายตนเองได้

                       3. สมาธิความจำแย่ลง หลงลืมง่าย จิตใจเหม่อลอย ทำงานผิดๆถูกๆ 

                       4. อาการทางกาย เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า นอนหลับยาก หรือนอนมากไป เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดเมื่อยตัว ปวดหัว ท้องอืด ท้องผูก เป็นต้น

                       5. การเรียนหรือการงานแย่ลง 

                       6. อาการโรคจิต มักพบในผู้ที่มีโรคซึมเศร้ารุนแรง  เช่น อาการหลงผิด ประสาทหลอน

                       ทั้งนี้ โรคซึมเศร้า อาจมีสาเหตุมาจากโรคทางกายได้ เช่น มีภาวะไทรอยด์ต่ำ ขาดวิตามินบางอย่าง เนื้องอกในสมอง สมองอักเสบ ตับอักเสบ เป็นต้น นอกจากนี้ ก็อาจเกิดจากการทานยาบางอย่าง เช่น ยาคุมกำเนิด ยาลดความดันบางชนิด ยาเพิ่มความอยากอาหาร เป็นต้น

                        แต่หากไม่ได้เกิดจากโรคทางกายและการใช้ยา สาเหตุอื่นๆ ได้แก่ กรรมพันธ์ุ มีความผิดปกติของสารเคมีในสมอง อุปนิสัยที่มักมองในแง่ลบร่วมกับการมีเรื่องกดดันจากภายนอก เป็นต้น

                       ในเบื้องต้น แนะนำควรเล่าให้คนใกล้ชิดที่เราไว้ใจฟัง หากในครอบครัวมีปัญหา อาจเริ่มต้นที่เพื่อนสนิทก่อน หรือคุณครูที่เราสนิทด้วย หรือญาติพี่น้องก็ได้ เพื่อจะได้รับรู้ถึงอารณ์ความรู้สึกของเราที่เปลี่ยนไป แต่หากสามารถเล่าให้คุณพ่อหรือแม่ฟังได้ ก็จะดีกว่า เพราะเขาจะได้คอยช่วยเหลือเราได้ค่ะ สำหรับการที่ครอบครัวมีปัญหา พ่อและแม่เลิกกัน ไม่ใช้สิ่งเลวร้าย หรือผิดแปลกอะไรค่ะ หากการอยู่ด้วยกันแล้วไม่สบายใจ ไม่มีความสุข เกิดปัญหา การแยกกัน เลิกกัน ก็น่าจะดีกับทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึงจะได้ไม่มาลงปัญหากับลูกด้วยค่ะ แม้ลูกอาจไม่ได้อยู่กับทั้งพ่อและแม่พร้อมกัน แต่เราก็ยังได้ความรักจากทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ดีค่ะ ซึ่งดีกว่าลูกๆ อีกมากมาย ที่อาจไม่มีพ่อหรือแม่เลยก็ได้ค่ะ

                       และหลังจากนี้ ก็ควรหาเวลาไปจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการซึมเศร้าที่เป็นอยู่ ซึ่งในขั้นต้น แพทย์อาจสาเหตุของโรคทางกายด้วย ว่ามีอยู่หรือไม่ หากไม่มี การรักษา ก็มีทั้งการใช้ยา และการรักษาทางจิตบำบัดค่ะ ไม่ควรปล่อยให้อาการความรู้สึกผิดปกติต่างๆ เป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ ทั้งนี้ อาจลองโทรไปที่เบอร์ 1323 ซึ่งเป็นเบอร์ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต เป็นกำลังใจให้อาการหายไปโดยเร็วนะคะ