ถามแพทย์

  • 2-3 เดือนก่อน มีเจ็บแสบทวารหนัก หมอบอกเป็นริดสีดวง ตอนนี้มีถ่ายเป็นมูกสีน้ำตาลเข้ม เกิดจากริดสีดวงไหม

  •  บอล ศรัณย์
    สมาชิก
    พอดีมีการถ่ายอุจจาระเป็นมูกสีน้ำตาลเข้มคล้ายๆมูกเลือดเเต่ไม่เเน่ใจว่าใช่ไหม คือก่อนจะถ่ายเป็นมูกสีนํ้าตาลเเบบนี้ เมื่อ2-3 เดือนก่อนหน้านี้เจ็บแสบทวารเลยไปหาหมอตรวจ หมอบอกว่าผมเป็นริดสีดวงภาย แล้วเมื่อ2วันก่อนมีการถ่ายเป็นมูกสีออกนํ้าตาลเข้มๆคล้ายเลือด เเล้วมันเกิดจากโรคริดสีดวงที่ผมเป็นอยู่ไหมครับมันทำให้มีอาการถ่ายเป็นมูกเลือดได้ไหมครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ บอล ครับ,

                         อาการถ่ายอุจจาะแล้วมีมูกสีน้ำตาลเข้มคล้ายเลือด อาจเกิดจาก

                        1. ลำไส้อักเสบเฉียบพลันจากการติดเชื้อ ซึ่งจะทำให้มีถ่ายเป็นมูก และอาจมีเลือดปนได้ นอกจากนี้ก็จะมีอาการปวดบิดท้อง ถ่ายเหลว คลื่นไส้ อาเจียนได้ ซึ่งอาการจะเป็นอยู่ไม่นานเกิน 2 สัปดาห์

                       2. ริดสีดวงทวารชนิดภายใน เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดดำที่ทวารหนัก อาการคือจะเป็นเลือดหยดออกมาพร้อมกับอุจจาระหรือหลังถ่ายอุจจาระ แต่มักเป็นเลือดสดสีแดงมากกว่าเลือดเก่าสีน้ำตาล และจะไม่มีอาการเจ็บหรือปวดบริเวณรูทวาร  ซึ่งสาเหตุ ได้แก่ การมีท้องผูกเป็นประจำ การชอบเบ่งถ่าย นั่งอุจจาระนาน ใช้ยาสวนบ่อย น้ำหนักตัวมาก เป็นต้น

                       3. แผลปริขอบทวารหนัก เกิดจากก้อนอุจจาระที่มีขนาดใหญ่ หรือแข็ง หรือออกแรงเบ่งมาก ก้อนอุจจาระอาจไปครูดกับเยื่อบุของทวารหนัก ทำให้เกิดเป็นแผลและมีเลือดออกได้ หรือเกิดจากการมีถ่ายอุจจาระเหลวเรื้อรัง ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักมากกว่าปกติจนเกิดฉีกขาด หรือจากการร่วมเพศทางทวารหนัก หรือการใส่นิ้วหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในทวารหนัก ซึ่งเลือดที่ออกจะมีปริมาณไม่มาก แต่จะมีอาการปวดหรือเจ็บรูทวารหนักร่วมด้วย       

                       4. โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่มักพบในคนอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป โดยอาจถ่ายเป็นเลือดสด หรือมีมูกปนเลือดสดหรือเลือดเก่าก็ได้ แต่ก็จะมีอาการอื่นๆ อีก เช่น อาการถ่ายไม่สุด ปวดท้องเรื้อรัง มีท้องเสียสลับกับท้องผูกเรื้อรัง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (5% ใน 3 เดือน) เป็นต้น

                       5. ลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง จะทำให้ถ่ายเป็นมูกมีเลือดปนได้ แต่จะมีอาการถ่ายวันละหลายรอบ ปวดเกร็งในช่องท้อง  มีไข้ เหนื่อย เพลีย โลหิตจาง และน้ำหนักลดอย่างมีนับสำคัญ

                        ดังนั้น หากอาการถ่ายเป็นมูกปนเลือดเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน และมีอาการท้องเสีย ปวดท้องร่วม ก็อาจเป็นลำไส้อักเสบได้ แต่หากไม่มีปวดท้อง ไม่มีท้องเสีย ไม่ได้ถ่ายบ่อยครั้ง ก็อาจป็นริดสีดวงทวารหรือแผลปริขอบทวารหนักก็ได้ ซึ่งในเบื้องต้น ก็ควรพยายามอย่าให้ท้องผูก และอย่าให้อุจจาระแข็งโดยการดื่มน้ำเปล่ามากๆ เน้นทานผักและผลไม้สด ไม่เบ่งถ่ายอุจจาระ ไม่นั่งถ่ายอุจจาระนาน เป็นต้น แต่หากยังคงถ่ายเป็นมูกสีน้ำตาลบ่อยๆ ต่อเนื่องเรื้อรัง หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมอีก ก็ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมต่อไปค่ะ