มีอาการปวดหัวและท้องเสีย แต่ไม่มีไข้ จะเป็นไข้หวัดใหญ่หรือไข้เลือดออกไหม

สวัสดีค่ะ คุณ terry,

                   การมีเฉพาะอาการปวดหัวและท้องเสีย โดยที่ไม่มีไข้ ก็ไม่น่าใช่อาการของโรคไข้หวัดใหญ่หรือไข้เลือดออกค่ะ

                   เพราะอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ คือ การมีไข้สูง ร่วมกับมีอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย คัดจมูก ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ เป็นต้น

                    ส่วนอาการของไข้เลือดออก คือ ในระยะแรก จะมีไข้สูงลอย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อาจมีจุดเลือดออกสีแดงเล็กๆ ตามผิวหนัง หรือมีเลือดออกบริเวณอื่นๆ เช่น เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล อาเจียนมีเลือดปน 

                    เมื่อเข้าสู่ระยะที่ 2 ระยะช็อก ไข้จะลง และจะเกิดน้ำรั่วออกจากเส้นเลือด ทำให้มีอาการทรุดลง เช่น ซึมลง กระสับกระส่าย เหงื่อออก ปลายมือปลายเท้าเย็น หัวใจเต้นเร็วและเบา ปัสสาวะออกน้อย หายใจหอบเหนื่อย มีเลือดออกในทางเดินอาหาร ความดันโลหิตที่ต่ำลงและมีโอกาสเสียชีวิตได้ ซึ่งระยะนี้ใช้เวลาประมาณ 1 - 2 วัน แต่ในบางรายหลังจากไข้ลง ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นจากระยะที่เป็นไข้ (ระยะที่ 1) เข้าสู่ระยะพักฟื้น (ระยะที่ 3) โดยไม่มีอาการของระยะช็อกเกิดขึ้น

                     ระยะที่ 3 หรือระยะพักฟื้น อาการต่างๆจะเริ่มดีขึ้น อยากทานอาหารมากขึ้น ความดันโลหิตกลับเป็นปกติ ปัสสาวะมากขึ้น บางรายมีผื่นแดงเล็กๆ ตามลำตัวและอาจมีอาการคันร่วมด้วย

                     ดังนั้น อาการที่เป็นอยู่ จึงน่าจะเป็นอาการของท้องเสียหรืออุจจาระร่วงเฉียบพลัน ซึ่งน่าจะเกิดจากอาหารเป็นพิษ หรือลำไส้อักเสบเฉียบพลันจากการติดเชื้อ ซึ่งเชื้อโรคอาจมามาจากการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ไม่สะอาด หรือจากมือหรือภาชนะที่ใส่อาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด เชื้อโรคส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย ซึ่งมีหลายชนิด

                   ในเบื้องต้น ให้พยายามดื่มน้ำสะอาดให้มาก และดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย ส่วนอาหาร ให้ทานเฉพาะอาหารอ่อน อาหารที่ย่อยง่าย รสจืด เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด ของผัด และเนื้อสัตว์ และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพราะจะยิ่งทำให้ถ่ายมากขึ้น 

                    แต่หากอาการท้องเสียเป็นมาก ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ