ถามแพทย์

  • หลังจากมีเพศสัมพันธ์ได้ 1เดือน มีอาการเจ็บหัวนมทั้งสองข้าง และประจำเดือนไม่มา เป็นอาการอะไร ใส่ถุงยางทุกครั้ง

  •  Tao Tao
    สมาชิก
    สวัสดีครับคุณหมอ อยากทราบว่าแฟนผมมีอาการแปลกๆหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ได้ 1เดือน 2 วัน แต่เริ่มมีอาการประมาณ1สับดาห์ มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ ปัสสาวะบ่อย(วันละ3-6รอบ) เจ็บที่หัวนม มีอาการเจ็บท้องบ่อยมาก เจ็บท้องแบบแน่นๆ เจ็บแบบวันนึงเจ็บที่นึง วันต่อมาก็เจ็บอีกที่ และทุกๆครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ประจำเดือนจะมาช้ากว่าปกติ 7-15วัน เป็นแบบนี้มา6เดือนแล้วครับ เดือนที่7ยังไม่มา ประจำเดือนครั้งที่แล้วมาวันที่12 มีนา ปี63 หมดวันที่ 17 มีนา ปี63 ตอนมีเพศสัมพันธ์ก็ใส่ถุงยางทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มีเพศสัมพันธ์หลังประจำเดือนหมดพอดี (17 มีนา ปี63)อยากทราบว่ามีโอกาสท้องไหมครับ แล้วอาการเจ็บท้องเกิดจากสาเหตุอะไร

    สวัสดีครับ คุณ Tao Tao

    หากมีเพศสัมพันธ์แบบใช้ถุงยางอนามัยป้องกันและไม่มีการแตกรั่ว ก็ไม่น่าจะตั้งครรภ์ได้นะครับ  แต่ถ้าประจำเดือนมาช้า ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ดูเพื่อความแน่ใจครับ เพราะเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดครับ 

    ส่วนอาการปวดท้อง คลื่นไส้ นั้น อาจเกิดจากอาการกระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ หรือ ตับอ่อนอักเสบ  ส่วนอาการปัสสาวะบ่อยอาจเกิดจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ก็ได้ครับ

    เบื้องต้น ขอให้ดื่มน้ำมากๆ ไม่อั้นปัสสาวะ รับประทานอาหารอ่อนๆ และนอนพักผ่อน แต่ถ้ายังมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และ ปัสสาวะบ่อยต่อเนื่อง ก็ควรพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาต่อไปดีกว่าครับ

    สวัสดีครับ คุณ Tao Tao

    หากมีเพศสัมพันธ์แบบใช้ถุงยางอนามัยป้องกันและไม่มีการแตกรั่ว ก็ไม่น่าจะตั้งครรภ์ได้นะครับ  แต่ถ้าประจำเดือนมาช้า ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ดูเพื่อความแน่ใจครับ เพราะเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดครับ 

    ส่วนอาการปวดท้อง คลื่นไส้ นั้น อาจเกิดจากอาการกระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ หรือ ตับอ่อนอักเสบ  ส่วนอาการปัสสาวะบ่อยอาจเกิดจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ก็ได้ครับ

    เบื้องต้น ขอให้ดื่มน้ำมากๆ ไม่อั้นปัสสาวะ รับประทานอาหารอ่อนๆ และนอนพักผ่อน แต่ถ้ายังมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และ ปัสสาวะบ่อยต่อเนื่อง ก็ควรพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาต่อไปดีกว่าครับ