ถามแพทย์

  • กินยาคุมมา 7 ปี หยุดทานยา เม.ย ประจำเดือนมา ก.ย. แล้วหายไปอีก จะเป็นมะเร็งไหม

  • สวัสดีค่ะ พอดีหนูทานนามคุมมา7ปี แล้วหยุดยาคุมช่วงเดือนเมษา พอเดือนกันยามีเลือดออกเหมือนเป็นประจำเดือน แร้วก้อหายไป ตอนนี้ยังไม่เป็นประจำเดือนเลยค่ะ หนูกลัวจะเป็นมะเร็ง มีสิทธิ์เป็นไปได้ไหมค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ ชื่ออะรัย ดี,

                         โดยปกติ เมื่อหยุดทานยาคุมกำเนิด ประจำเดือนก็จะมาภายใน 4-5 สัปดาห์ ดังนั้น หากหยุดทานยาไปเมื่อเดือน เม.ย. และประจำเดือนได้ขาดหายไปหลายเดือน จนมีเลือดออกมาในเดือน ก.ย. และได้ขาดหายไปอีก อาจเกิดจาก

                        1. การตั้งครรภ์ 

                        2. เป็นโรคอ้วน เนื่องจากคนอ้วนมีเซลล์ไขมันจำนวนมาก ซึ่งเซลล์ไขมันสามารถสร้างฮฮร์โมนเอสโตรเจนได้ในปริมาณเล็กน้อย เมื่อมีปริมาณมากเกิน จึงกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศที่ปกติได้ 

                         3. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ

                         4. มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษหรือไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ

                         5. มีพังผืดในมดลูก

                         สำหรับมะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มักจะมีอาการเลือดออกกะปริดกะปรอย มีตกขาวปนเลือด มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ปวดท้องน้อย เป็นต้น ส่วนมะเร็งรังไข่ มักคลำได้ก้อนในท้อง ปวดท้องน้อย เป็นต้น และส่วนใหญ่มะเร็ง มักพบในวัย 40 ปีขึ้นไป ดังนั้น อาการขาดประจำเดือนที่เป็นอยู่ จึงไม่น่าเกิดจากโรคมะเร็งค่ะ

                          ในเบื้องต้น ควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อน หากตรวจไม่พบ และประจำเดือนยังคงไม่มา ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ