ถามแพทย์

  • อายุ 14 ปี เคยเป็นโรคอัณฑะอักเสบ กินยาหายแล้ว อัณฑะมีขนาดเล็กลงเเรื่อยๆ เป็นอะไรครับ

  •  Tanaprem Ake
    สมาชิก
    ผมอายุ14ปี ผมเคยเป็นโรคอัณฑะอักเสบมาก่อนกินยาจนหายดีครับ จากนั้นไปๆมาประมาณ5เดือนก่อนมั้งครับ ผมสังเกตอาการมาสักพัก อัณฑะข้างซ้ายผมมีขนาดเล็กลงนิดนึง และมีความเเข็ง จากนั้นประมาณ2เดือนผมรู้สึกว่ามันเล็กลงเรื่อยๆ จนผมไปหาจากกูเกิ้ลมาว่า คือ โรคหลอดเลือ อัณฑะขอด ผมพอทราบว่าต้องปฏิบัติอย่างไรไม่ว่าจะ ใส่กางเกงในรัดตลอด แต่ปัจจุบันนี้มันเล็กจนเท่าหยิบมือแล้วครับ ผมอยากทราบว่า ผมเป็นอะไรครับ และ ทำยังไงถึงจะหาย ผมมีโอกาสเป็นหมันไหมครับ และรักษาอาการยังไงให้หาย ผมไม่สดวกไปรพ.เพราะ เนื่องด้วยสถานะการโควิดด้วย ลืมบอกครับ มันเกี่ยวกับการช่วยตัวเองด้วยไหมครับ เพราะ ผมก็ช่วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์นึงก็2-3ครั้งอะครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Tanaprem Ake,

                         การที่ขนาดของอัณฑะเล็กลง อาจเกิดจาก

                        - การที่เคยมีอัณฑะอักเสบจากการติดเชื้อมาก่อน เมื่อหายแล้ว เนื้อเยื่อบางส่วนของอัณฑะอาจมีพังผืดแทนที่ ทำให้หดเล็กลงและมีขนาดแข็งขึ้นได้

                         - หลอดเลือดดำอัณฑะขอด (varicocele) โดยจะพบมีก้อนบวมที่อัณฑะ ส่วนตัวลูกอัณฑะมีขนาดเล็กลง อาจมีอาการปวดตื้อๆ และเจ็บมากขึ้นเมื่อนั่ง ยืน แต่อาการจะดีขึ้นเมื่อเอนตัวนอน

                          ส่วนการช่วยตัวเองสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ไม่ได้เป็นสาเหตุทำให้อัณฑะมีขนาดเล็กลงค่ะ

                          หากขนาดอัณฑะเล็กลงเรื่อยๆ ชัดเจน แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งการที่อัณฑะฝ่อเล็กลง ไม่ว่าจะสาเหตุใด อาจส่งผลทำให้มีภาวะมีบุตรยากได้ค่ะ ทั้งนี้ แม้ในช่วงนี้จะมีโรคโควิดกลับมาระบาดใหม่อีกครั้ง แต่ก็ยังสามารถไปยังโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจได้ตามปกติค่ะ