ถามแพทย์

  • ค่าความเข้มข้นเม็ดเลือดแดง 32 ค่าฮีโมโกลบิน 11 เป็นอะไรได้บ้าง มีเลือดออกมาในปัสสาวะด้วย

  •  pmj1228
    สมาชิก

    พอดีว่าเม็ดเลือดแดงตัวเล็ก ค่าเม็ดเลือดแดงอัดแน่นประมาณ 32 ค่าฮีโมโกลบินประมาณ 11 ไม่ทราบว่าเป็นอะไรได้บ้างหรือคะ แล้วมีเลือดออกมากับปัสสาวะ เกี่ยวกันหรือไม่คะ

    สวัสดีค่ะ คุณ pmj1228,

                     ค่าฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ที่ปกติในผู้ใหญ่เพศหญิงจะอยู่ที่ 12-15 g/dl ส่วนค่า Hematocrit หรือค่าความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง (หรือเม็ดเลือดแดงอัดแน่นดังที่กล่าวมา) ที่ปกติในผู้ใหญ่เพศหญิงจะอยู่ที่ 36%-48% ซึ่งในกรณีของคุณ pmj1228 ถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์ปกติเล็กน้อย เรียกว่ามีภาวะโลหิตจาง

                      ซึ่งสาเหตุของการเกิดภาวะโลหิตจาง ได้แก่

                      1. การเสียเลือดเรื้อรัง เช่น ประจำเดือนมามาก มีเลือดประจำเดือนกะปริดกะปรอย เป็นริดสีดวงทวารและมีถ่ายอุจจาระเป็นเลือดเป็นบ่อยๆ 

                         2. ขาดสารอาหารจากการทานไม่เพียงพอ เช่น ธาตุเหล็ก กรดโฟลิก วิตามินบี 12 โปรตีน

                         3. ตั้งครรภ์ เนื่องจากต้องใช้เลือดมากขึ้นในการส่งไปเลี้ยงทารกในครรภ์

                         4. เป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น ติดเชื้อ HIV วัณโรค โรคไตเรื้อรัง โรคภูมิแพ้ตนเองชนิดต่างๆ โรคมะเร็งต่างๆ เป็นต้น

                         5. โรคที่เม็ดเลือดแดงอายุสั้นกว่าปกติ เช่น โรคธาลัสซีเมีย พาหะธาลัสซีเมีย โรคพร่องเอนไซม์ G-6-PD โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว (sickle cell anemia) การทำลายเม็ดเลือดแดงที่เป็นผลมาจากการติดเชื้อ ภาวะม้ามโต การแพ้ยาบางชนิด เป็นต้น

                        6. โรคของไขกระดูก เช่น ไขกระดูกฝ่อ มะเร็งในไขกระดูก หรือการติดเชื้อในไขกระดูก เนื่องจากไขกระดูกมีหน้าที่ในการสร้างเม็ดเลือดแดง เกร็ดเลือด และเม็ดเลือดขาว เมื่อไขกระดูกไม่สามารถสร้างเซลล์เม็ดเลือดได้ จึงทำให้ปริมาณเม็ดเลือดแดงในเลือดลดน้อยลง

                          แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุว่าเกิดภาวะโลหิตจางจากสาเหตุใด ส่วนการมีเลือดออกมาในปัสสาวะ หากมีเลือดออกเรื้อรัง ย่อมเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้

                          การมีเลือดออกในปัสสาวะ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น 

                      - การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะในผู้หญิง โดยมักมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดหรือแสบขณะปัสสาวะ ถ่ายปัสสาวะบ่อยครั้ง กลั้นปัสสาวะไม่ได้ รู้สึกปัสสาวะไม่สุด ปวดท้องน้อย เป็นต้น

                       - มีนิ่วในไต หรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

                      - โรคไตบางชนิด เช่น ไตอักเสบ (Glomerulonephritis)

                       - มีภาวะเลือดออกผิดปกติ เช่น เกร็ดเลือดต่ำ โรคเกร็ดเลือดทำงานผิดปกติ การใช้ยาละลายลิ่มเลือด

                       -  การออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก

                       -  อวัยวะในทางเดินปัสสาวะได้รับบาดเจ็บ เช่น เกิดอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา

                       - เนื้องอกหรือมะเร็งที่ไตหรือกระเพาะปัสสาวะ

                       ดังนั้น หากยังคงมีเลือดออกมาในปัสสาวะ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเช่นกันค่ะ