ถามแพทย์

  • อายุ 24 ปีมีปัญหาเรื่องครอบครัว ได้แต่งงานมีลูกกับสามี มีปัญหากับครอบครัวสามี เพราะถูกดุด่า ไม่มีความสุขเป็นอะไรค่ะ

  •  Thunwarat Nuttakit
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ อาจจะยาวไปนิดนะค่ะ ตอนนี้อายุ24ปี เป็นคนเชียงใหม่ พ่อแม่เสียตั้งแต่3ขวบค่ะ ((เริ่มมีอาการครั้งแรกตอนอายุ15ปี เมื่อปี53ไม่ได้เรียนต่อชั้น ม.4ต้องหยุดแค่ม.3แค่นั้น สติแตก,เสียใจ,ร้องไห้ฟูมฟาย,ทำร้ายตัวเอง,โยนทำลายข้าวของ,ต่อปากต่อคำกับญาติโทษคนรอบข้างที่ไม่ให้เรียนต่อ,อาการแบบที่กล่าวไปนี้หยุดทำหลังจากนั้นได้5เดือน ก็กลับมีมีนิสัยเฉยๆปกติค่ะ)) แต่เมื่อ1ปีกว่าที่แล้วมีลูกมีสามี ต้องย้ายไปอยู่บ้านสามีที่ เชียงราย บนดอยในป่าลึกเส้นทางลำบากมากห่างความเจริญทุกอย่างชีวิตปากท้อง ลำบากยากจน หดหู่มากค่ะ หนูต้องขายรถขายสิ่งของเครื่องใช้ของหนูเป็นค่ากินค่าเดินทางไปฝากครรภ์ทุกเดือน ต้องอาศัยอยู่ร่วมกับครอบครัวของฝ่ายสามี,พี่สาว,แม่สามี,พ่อสามี,ไม่ยอมให้ตกแต่งกันตามประเพณีไม่เกียวดองกับญาติฝ่ายหนูไม่ยอมให้หนูบอกญาติๆว่าท้อง ทำให้หนูกดดันอึดอัดใจตั้งแต่นั้นมาค่ะ โดนกลั่นแกล้งว่าร้ายนินทาสาระพัดหาเรื่องมีปากเสียงพยายามจะลงไม้ลงมือตบตีกับหนูและสามีได้เกือบทุกวันหลังคลอดลูกก็ไม่เว้นเป็นแบบนี้เรื่อยๆตลอด1ปีกว่า.... ##จนในช่วง1ปีกว่าที่ผ่านมาจะมีอาการทุกครั้งที่ทะเราะวิวาทกันรุนแรงจริงๆ ช่วงเดือนมกราคม ปี60หลังคลอดได้6วัน1ครั้ง. และสิ้นเดือนสิงหาคม ปี60ทั้งบ้านวิวาททำร้ายร่างกายกัน4วันติดกัน มีอาการ3ครั้ง.. **จะมีอาการคือแอบเดินหนีไปนั่งร้องไห้เงียบๆกอดลูกไม่ยอมปล่อยให้ใครเอาสำลีอุดหูลูกไว้กล่อมลูกหลับข้างๆบ้านเหมือนคนบ้าหลบมุมอยู่ในที่แคบๆใครจะมาแย่งอุ้มไปก็มองหน้าทำตาดุไม่ยอมปล่อยลูก และเริ่มนั่งเหมอลอยด่าตัวเองว่าโง่เองที่เลือกเดินทางผิดอยู่ผิดที่ผิดเวลา (("นั่งยิ้มทั้งน้ำตา "ใช้ชีวิตในจิตนาการคู่ขนาดที่สร้างขึ้นเป็นฉากๆโรยด้วยกรีบกุหลาบย้อนอดีตตั้งแต่อายุ15จนถึงช่วงปัจุบันนั้นทุกอย่างรอบข้างชีวิตเฟอร์เฟ็คไปหมดมีความสุขมากสร้างภาพในหัวพูดคุยกับตัวเองและบุคลหลากหลายในความคิดค่ะ.)) ขณะที่รอบข้างด่าว่าหนูด้วยคำหยาบ พ่อแม่สามีและพี่สาวทะเลาะวิวาททุบบ้านเสียงดังโยนข้าวของใส่สามีที่ปกป้องหนูกันโวยวายเสียงดัง (("แต่ตัวหนูรู้สึกภาพเสียงทุกอย่างเบลอๆลอยๆไม่ชัดไปหมด")) จนสามีกับหลานสะใภ้เดินมาเจอเขย่าตัวตบหน้าหนูเบาๆเรียกชื่อหนู+เสียงร้องไห้ลูกตื่นพอดี** (("หนูจึงตื่นหลุดจากจิตนาการนั้นค่ะและทุกอย่างรอบข้างก็กลับมาเสียงดังเหมือนเดิม")) ...อาการที่ระบุใน ((วงเล็บ)) หนูรู้สึกกับตัวเองจำได้แค่ช่วงนั้น.. ..ส่วนที่เครื่องหมาย **ดอกจัน** หลานสะใภ้กับสามีบอกให้ฟังค่ะนั่งแบบนั้นอยู่ประมาณ30นาที. ##พอเช้าอีกวันหนูขอสามีให้พาลูกกับหนูหนีออกมาโดยไม่บอกใครว่สอยู่ที่ไหนใช้ชีวิตในเมืองห่างบ้านสามี40กิโล สิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้จะครบ1ปีที่หนีมาชีวิตดีขึ้นลืมตาอ้าปากได้มีความสุข #จะมีอาการเป็นครั้งคราวเฉพาะเวลาที่เครียดเรื่องฝ่ายครับครัวสามีเริ่มโทรหาโทรจิกสามีหนูพยายามจะมาวุ่นวายเรา3คน แต่อาการไม่ค่อยหนักเหมือนปีที่แล้วค่ะ ##หนูมีโรคประจำตัวตรวจเจอช่วงต้นเดือนสิงหาคมปี60 โรคไทรอยด์เป็นพิษมีคอบวมอาการข้างเคียงทางร่างกายมาครบ พึ่งกินยาต่อเนื่องได้1ปีค่ะ

     สวัสดีคะคุณ Thunwarat Nuttakit

    ก่อนอื่นปัญหาตอนนี้ที่คุณเผชิญอยู่นั้นมี อยู่หลายด้านเลยค่ะ หมอขอแบ่งเป็นด้านต่างๆ ดังนี้ค่ะ

    1. ภาวะทางอารมณ์ และภาวะซึมเศร้า ร่วมกับภาวะหลอน หรือ เป็นภาวะที่คิดไปเองไม่ได้มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงๆ หมอไม่ทราบว่าระหว่างนั้นได้มีการรักษาหรือปรึกษาจิตแพทย์หรือไม่ค่ะ แต่อ่านจากประวัติหมอคิดว่าไม่น่าจะมีค่ะ แต่คุณสามารถที่จะปรับตัวและหาทางออกให้ตัวเองได้นะคะ คือ การที่แยกออกจากครอบครัวใหญ่ของครอบครัว และการมีชีวิตด้วยตัวเอง แต่ปัญหาคือ คุณยังมีภาวะซึมเศร้า หรือ ภาวะเครียดเป็นบางครั้งเนื่องจากยังมีการกระตุ้นจากสิ่งกระตุ้นรอบข้างค่ะ ทำให้อาจจะมีภาวะนั้นกลับมาได้ค่ะ คือ ตรงนี้ถ้าได้ปรึกษาจิตแพทย์อาจจะดีขึ้นมากๆค่ะ ยาต้านเศร้าหรือ ยาปรับอารมณ์ มักจะมีบทบาทในการรักษาค่ะ หรือ การทำกลุ่มบำบัดค่ะ
    2. ภาวะเศรษฐานะ ทำให้มีปัญหาเรื่องของความเครียดที่มากระตุ้นได้อีก
    3. ปัญหาเรื่องของครอบครัวสามี ซึ่งอาจจะต้องพยายามแยกให้ขาดค่ะ
    4. ปัญหาสุขภาพที่คุณเป็นคือไทรอยด์ แนะนำให้รักษาอย่างต่อเนื่องค่ะ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องกินยาต่อเนื่องอย่างน้อยสองปีจนกว่าระดับฮอร์โมนจะกลับมาปรกติค่ะ

    ขอให้ปรึกษาแพทย์ทางระบบต่อมไร้ท่อ จิตแพทย์ค่ะ 

     

    Thunwarat Nuttakit  Thunwarat Nuttakit
    สมาชิก
    ขอบคุณค่ะ🙏
    Thunwarat Nuttakit  Thunwarat Nuttakit
    สมาชิก
    เมื่อเช้าจนถึงตอนนี้ รู้สึกจิตตก กลัว กังวล ใจสั่นค่ะ สามีบอกวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้จำเป็นต้องพาหนูกับลูกเดินทางไปบ้านหมู่บ้านเขา เพื่อไปดูใจญาติผู้ใหญ่ที่ใกบ้จะเสียชีวิต แต่คงต้องแวะเข้าบ้านเขาด้วย สามีบอกให้หนูทำใจไว้นะอาจต้องฝืนนิดน่อยจะต้องเผชิญหน้าพูดคุยกับคนในบ้านเขาบ้าง. แค่คิดว่าจะต้องทนฝืนตัวเองมองหน้าได้ยินเสียงคนพวกนั้น จิตตกหดหู่ใจมากๆเลยค่ะหมอ ยิ่งช่วง1เดือนมานี้ พี่สาวทั้ง2คนของสาวมี พยายามสร้างเฟสบุ้คมาขอเป็นเพื่อนและส่งข้อความมาหาหนูบ่อยมากๆ แต่หนูกดลบทิ้ง😫