ลูกอายุ 7 ขวบ ปกตินานๆ เลือดกำเดาจะไหล แต่ภายในครึ่งเดือนนี้ไหลไป 3 ครั้ง อันตรายไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Patthikrit Kittayapronsakun,

                  การมีเลือดกำเดาไหล เกิดจากเส้นเลือดฝอยหรือเส้นเลือดใหญ่ภายในจมูกแตก  ส่วนใหญ่มักพบในช่วงวัยเด็กอายุ 2-10 ปี และผู้สูงวัยในช่วง 50-80 ปี โดยทั่วไป หากเกิดขึ้นนานครั้งๆ สาเหตุ ได้แก่

                  - การล้วงหรือแคะจมูกที่รุนแรง การจามบ่อย ๆ จามแรง สั่งน้ำมูกแรงเกินไป

                  - มีการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น เยื่อบุจมูกอักเสบจากไวรัส ไซนัสอักเสบ เป็นต้น

                 - มีสิ่งแปลกปลอมเข้าจมูก

                  - จมูกได้รับการกระแทกแรง 

                  - สภาพอากาศที่หนาวและแห้ง หรืออากาศที่ร้อนจัดก็ได้

                  - การใช้ยาบางชนิดที่มีผลทำให้โพรงจมูกแห้ง เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้คัดจมูก เป็นต้น 

                    แต่หากมีเลือดกำเดาไหลบ่อยๆ อาจเกิดจาก

                  - เป็นโรคภูมิแพ้ ที่ทำให้มีน้ำมูกและอาการคัดจมูกบ่อยๆ

                  - มีภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เช่น โรคฮีโมฟิเลีย หรือมีการแข็งตัวของเกร็ดเลือดผิดปกติ เช่น โรควอนวิลลิแบรนด์ (vWD) เป็นต้น

                  - มีเนื้องอกหรือมะเร็งในโพรงจมูก

                   หากในช่วงนี้ลูกมีน้ำมูกไหลหรือจามบ่อยๆ ร่วมด้วย ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ยังคงมีเลือดกำเดาไหลบ่อยๆ ได้ หรือหากนอนโดนแอร์ที่เย็นและแห้งเกินไป หรือการไปเล่นกลางแดดหรืออากาศที่ร้อน ก็อาจเป็นสาเหตุได้เช่นกัน แต่หากไม่ได้มีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลหรือจามร่วมด้วย และยังคงมีเลือดกำเดาไหลบ่อยๆ แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ ในเบื้องต้น พยายามอย่าให้น้องใช้มือหรือสิ่งของแคะจมูก และเมื่อมีเลือดกำเดาไหล ก็ให้กดบีบจมูกไว้ ดังที่ได้ทำอยู่ แล้วให้หายใจทางปากแทน ควรนั่งตัวตรง ก้มหน้าเล็กน้อย ไม่แหงนหน้า และใช้การประคบเย็นบริเวณสันจมูกร่วมด้วยค่ะ