ริดสีดวง

สวัสดีค่ะคุณ พี่ลาเต้ กะ น้องเลต้า

ก้อนที่บริเวณก้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ริดสีดวงทวาร, ฝีที่ก้น, ติ่งเนื้อจากบริเวณผิวหนัง (skin tag), ก้อนเนื้องอกของรูทวาร (Anal squamous intraepithelia neoplasia) หรือ การติดเชื้อหูดที่บริเวณก้น (Condyloma) เป็นต้น

ส่วนโรคริดสีดวงทวาร (hemorrhoid) เป็นโรคที่เกิดจากการโป่งพองของเส้นเลือดบริเวณทวารหนักหรือส่วนปลายของลำไส้ใหญ่ที่อยู่ติดกับทวารหนัก ทำให้มีอาการคล้ายติ่งยื่นออกมาจากทวารหนัก คนไข้อาจจะมีอาการปวด เจ็บ หรือคันบริเวณทวารหนัก ถ่ายลำบาก ถ่ายอุจจาระมีเลือดสดปนออกมา หากมีเส้นเลือดอุดตัน (thrombosed hemorrhoid) ทำให้บริเวณนั้นอักเสบจนคนไข้อาการปวดบริเวณทวารหนักรุนแรง บวม และคลำได้ก้อนแข็งบริเวณทวารหนักได้

-ปัจจัยที่ส่งเสริมให้โรคริดสีดวงเป็นมากขึ้น ได้แก่ การนั่งเบ่งอุจจาระเป็นเวลานาน ประวัติท้องเสียเรื้อรังหรือท้องผูกเรื้อรัง น้ำหนักเกิน รับประทานที่มีกากใยน้อย ตั้งครรภ์ เป็นต้น

-การดูแลรักษาสุขภาพตนเองเพื่อลดอาการและป้องกันโรคริดสีดวง แนะนำให้คนไข้รับประทานอาหารที่มีพืชผักผลไม้ที่มีกากใยสูง ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พยายามอย่ากลั้นอุจจาระนานๆ และพยายามเลี่ยงการเบ่งอุจจาระ ค่ะ

ในกรณีที่มีอาการเจ็บเวลาถ่ายอุจจาระ นอกจากโรคริดสีดวงทวารแล้ว ยังมีโรคอื่นๆอีกเช่น โรคแผลที่ขอบทวาร (anal fissure) ฝีที่ทวาร (anal abcess) เป็นต้น

จากที่เล่ามา ยังสรุปไม่ได้ว่า ติ่งเนื้อ และอาการเจ็บทวารหนัก เกิดจากสาเหตุอะไรนะคะ

**แนะนำคุณพี่ลาเต้ กะ น้องเลต้า ว่าหากติ่งหรือก้อนที่ออกมาเป็นมากขึ้น หรือเจ็บทวารหนักรุนแรง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสมค่ะ