ถามแพทย์

  • ยาอะไรที่ใช้รักษาอาการปวดท้อง ไม่ถ่าย พอถ่ายออกก็มีเลือดออกเล็กน้อย

  • ยาอะไรที่ใช้รักษาอากปวดท้องไม่ถ่ายมีออกแต่เลือดเล็กน้อย

    สวัสดีค่ะ คุณ ชัยยศ เอี่ยมอ่อน,

                       หากมีอาการท้องผูก แล้วทำให้ปวดท้อง ก็ต้องรักษาอาการท้องผูกให้หาย โดยในเบื้องต้น ก็ควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ อย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร เน้นทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง จำพวกผัก ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ หรืออาจทานไฟเบอร์สำเร็จรูปเสริม การทานโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวอาจช่วยให้ถ่ายง่ายขึ้นได้ เนื่องจากมีแบคทีเรียที่ไปช่วยการทำงานของลำไส้ใหญ่ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้ลำไส้เคลื่อนไหว และควรฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา

                    แต่หากไม่ถ่ายอุจจาระนานเกิน 3 วันแล้ว ก็ควรทานยาระบายช่วย  ซึ่งอาจเริ่มต้นด้วยการทานไฟเบอร์ ที่จะไปทำให้อุจจาระเกาะตัวเป็นก้อน เมื่ออุจจาระมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้เคลื่อนไหวมากขึ้น เช่น ไซเลียม (psyllium) เมธิลเซลูโลส (methylcellulose) อินนูลิน (inulin) เป็นต้น ในการทานใยอาหารหรือไฟเบอร์เหล่านี้ จำเป็นต้องดื่มน้ำมากๆ ร่วมด้วย หากดื่มน้ำไม่มากพอ ไฟเบอร์อาจอุดตันลำไส้ ซึ่งกลายเป็นอันตรายได้

                     แต่หากทานไฟเบอร์แล้วยังคงมีอาการถ่ายอุจจาระไม่ออก แนะนำให้ใช้ยากลุ่มอื่นๆ ต่อไป คือ

                     - ยาระบายกลุ่มกระตุ้น จะช่วยกระตุ้นจังหวะการบีบตัวของลำไส้ให้ทำงานดีขึ้น เช่น ยาดัลโคแลค (Dulcolax) ยาบิซาโคดิล (Bisacodyl) ยาเซนโนไซด์ (Sennosides)

                      - ยาระบายกลุ่มออสโมซิส จะออกฤทธิ์ดูดซึมน้ำกลับเข้าสู่ลำไส้ใหญ่มากขึ้น ทำให้อุจจาระไม่แห้งและแข็งจนถ่ายออกลำบาก เช่น ยาแมกนิเซียม ไฮดรอกไซด์ (Magnesium Hydroxide)  ยาแลคตูโลส (Lactulose) 

                    นอกจากนี้อาจใช้ยาชนิดยาเหน็บ ซึ่งหากเป็นยาเหน็บกลีเซอรีน ยาจะช่วยทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มลงและกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ได้

                     แต่หากได้ทานยาแล้ว ยังคงถ่ายอุจจาระไม่ออก หรือถ่ายออก แต่ยังคงมีอาการท้องผูกบ่อยๆ ก็ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของท้องผูกและทำการรักษาค่ะ

                     ส่วนการที่ถ่ายมีเลือดปน ก็อาจเกิดจาก

                    1. ริดสีดวงทวารชนิดภายใน เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดดำที่ทวารหนัก อาการคือจะเป็นเลือดสีแดงสดหยดออกมาพร้อมกับอุจจาระหรือหลังถ่ายอุจจาระ บางรายเลือดอาจมีปริมาณมากได้ แต่จะไม่มีอาการเจ็บหรือปวดบริเวณรูทวาร  

                    2. แผลปริขอบทวารหนัก เกิดจากก้อนอุจจาระมีขนาดใหญ่ หรือแข็ง หรือออกแรงเบ่งมาก ก้อนอุจจาระอาจไปครูดกับเยื่อบุของทวารหนัก ทำให้เกิดเป็นแผลและมีเลือดออกได้ 

                    โดยทั้ง 2 สาเหตุนี้ ก็มีปัจจัยมาจากการที่มีท้องผูกบ่อยๆ ได้ ดังนั้น ก็ต้องรักษาอาการของท้องผูกให้ดีขึ้น เพื่อที่จะไมให้เกิดการถ่ายเป็นเลือดบ่อยๆ ค่ะ แต่หากยังคงถ่ายเป็นเลือดบ่อยๆ อีก ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ