ถามแพทย์

  • ยาคุมกำเนิดสามารถทำให้ท้องเสียได้ไหม และถ้าท้องเสียไปหลายๆครั้งแล้ว ยาจะหมดประสิทธิภาพไหม ควรทำอย่างไรต่อ

  •  Sukanya Shupsin
    สมาชิก

    พึ่งเริ่มทานยาคุมครั้งแรกค่ะ เริ่มทานตั้งแต่วันที่ 23 เวลา 21.55 เป็นเม็ดแรก เช้าวันที่ 24 มีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว หลังจากทานวันที่ 2 3 ยังมีอาการท้องเสียอยู่ค่ะ ถ่ายช่วง 23.00  ถ่ายเหลวเป็นน้ำ ไม่มีอาการปวดท้อง ไม่มีอาการเพลีย ถ่าย 3 - 4 ครั้งใน 1 วัน อยากทราบว่า ยายังมีประสิทธิภาพอยู่ไหมคะ ควรทานต่อ หรือว่าเลิกกินแล้วเปลี่ยนยี่ห้อยาใหม่คะ

    Sukanya Shupsin  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Sukanya Shupsin

    ยาคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนั้นเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงมาก หากได้กินติดต่อกันทุกวันจนหมดแผงยา และคลาดเคลื่อนกันวันละไม่เกิน 3 ชั่วโมง โดยการเริ่มยาควรเริ่มภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนเพื่อให้สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ทันที หากเริ่มช่วงเวลาอื่น อาจจะต้องกินติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนค่อยมีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกันได้

    ยาคุมกำเนิดอาจทำให้มีผลข้างเคียงเช่น คัดตึงเต้านม เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด มีผลต่อน้ำหนักตัวในยาคุมบางชนิดได้ คลื่นไส้ได้ แต่อาจไม่อธิบายอาการเรื่องถ่ายเหลวได้โดยตรง อาการถ่ายเหลวน่าจะเกิดจากเรื่องอาหารเป็นพิษหรือลำไส้อักเสบ ลำไส้แปรปรวนได้มากกว่า

    แต่อย่างไรก็ตาม การถ่ายเหลวหลายๆครั้งติดกัน เป็นน้ำ อาจทำให้ยาคุมถูกขับออกไปจากร่างกายโดยังไม่ได้ดูดซึมได้ แนะนำว่าถ้าถ่ายเหลวจนเพลีย ถ่ายเกิน 4 ครั้งต่อวันเป็นน้ำเยอะ อาจจะต้องกินยาคุมชดเชยเข้าไปในวันนั้นๆ แต่ถ้ายังปริมาณไม่มากนัก ไม่จำเป็นต้องกินเพิ่ม และสำคัญคือกินต่อเนื่องจนยาคุมหมดแผง หากไม่แน่ใจ ควรใส่ถุงยางอนามัยไปร่วมด้วยทุกครั้งจนกว่าประจำเดือนครั้งถัดไปจะมา