ถามแพทย์

  • ทานยาคุมชนิด 21 เม็ด ทานหมดแล้วได้มีประจำเดือนมา แล้วเริ่มทานแผงใหม่ต่อ แต่ได้มีเลือดออกมา จะท้องไหม

  •  Phannaporn
    สมาชิก
    -ปกติหนูกินยาคมกำเนิดแบบรายเดือน 21 ช่วงเดือนมิถุนาได้หยุดกินไป15วันและกลับมากิน แต่ซื้อผิดยี่ห้อ จากนั้นประจำเดือนก็มาเยอะ15วันเลยค่ะมีสีแดงสด จากนั้นก็น้ำตาลแดง แต่หลังจากนั้นก็กลับมากินยี่ห้อเดิมจน ปจดมาเป็นปกติ คือพอหมด21เม็ดปจดก็มา5-7วัน จนถึงปัจจุบันเดือนกินได้กลางแผง อยู่ก็มีเลืดสีชมพู กลิ่นเหมือน้ลือดไหลออกมาจากช่องคลอด หลังจากมีsexแบบไม่สวมถุงยางตอนกลาง พบเลือดตอนเช้า ออกแบบนิดๆ แต่เป็นมาสองวัน ออกแค่บางช่วง ไม่มีอาการเจ็บท้องหรืออื่นๆ -ถ้ากินยาคุมติดต่อกัน พอหมด21เม็ดปจดก็มา พอครบ7วัน ก็เริ่มกินใหม่ หลังงจากสองวันที่กินยา หากมีsex แบบไม่ป้องกันจะเสี่ยงท้องไหมคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Phannaporn,

                        หากทานยาคุมกำเนิดชนิด 21 เม็ด และได้มีประจำเดือนมาในช่วงที่เว้นระยะการทานยาไป 7 วัน ก็แสดงว่าปกติดี และไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น และเมื่อเว้นระยะครบ 7 วัน ได้เริ่มทานยาคุมแผงใหม่ต่อในวันถัดไป การออกฤทธิ์ในการป้องกันก็จะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% ค่ะ ดังนั้น โอกาสในการตั้งครรภ์ก็ถือว่ามีน้อยมาก

                         และเมื่อทานบาคุมกำเนิดไปได้ถึงช่วงกลางแผง แล้วมีเลือดออกมา เลือดดังกล่าว ก็น่าจะเกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด ที่ทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ โดยเฉพาะหากเป็นยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนต่ำค่ะ ซึ่งไม่ได้ผิดปกติอะไร ทั้งนี้ แม้จะเคยทานแล้วไม่มีเลือดออกมาก่อน แต่ก็อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ ซึ่งหากเลือดที่ออกมีปริมาณไม่มาก ไม่ได้ออกนานหลายวัน ไม่มีปวดท้องน้อย ก็ไม่ได้อันตรายอะไร ไม่จำเป็นต้องหยุดทานยา หรือเปลี่ยนยี่ห้ออีกค่ะ