มีเพศสัมพันธ์หลังไข่ตกไป 2 วัน แล้วมีเลือดออกเป็นสีน้ำตาล ปวดท้องน้อย เป็นอะไร ท้องไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Irada Thongkum,

                   การมีเลือดออกในช่วงที่ไม่ใช่วันที่ที่ประจำเดือนควรจะมา อาจเป็นเลือดที่เกิดจาก

                  1. เลือดออกช่วงไข่ตก หากเลือดที่ออกอยู่ในช่วงกึ่งกลางของรอบประจำเดือน คือประมาณวันที่ 13-15 นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา และออกเพียงแค่ 1 วัน เลือดดังกล่าวก็น่าจะเป็นเลือดออกวันไข่ตกได้ และในช่วงวันไข่ตก อาจมีอาการอื่นๆ ได้อีก เช่น ปวดท้องน้อย เจ็บเต้านม คลื่นไส้ ไวต่อกลิ่นต่างๆ ตกขาวเป็นมูกใสมากขึ้น ความต้องการทางเพศมากขึ้น เป็นต้น

                   2. มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก มักมีตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย 

                   3. ความผิดปกติที่มดลูกและรังไข่ เช่น มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น แต่ก็จะต้องมีเลือดออกมาอีกเรื่อยๆ

                    4. ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น 

                    5. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ

                    ส่วนเลือดล้างหน้าเด็กนั้น จะเกิดหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 6-12 วัน ดังนั้น จึงไม่น่าใช่

                   แนะนำให้สังเกตอาการไปก่อน หากเลือดที่ออกมามีปริมาณไม่มาก และเป็นเพียงแค่ 1-2 วัน อาจเป็นเลือดออกช่วงไข่ตกก็ได้ แต่หากเลือดมีปริมาณมาก และออกนานเกิน 2 วัน หรือมีปวดท้องน้อยต่อเนื่อง ก็ควรไปพบสูติ-แพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ

                  ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์นั้น จะทราบว่ามีหรือไม่ ก็ควรรอดูว่าประจำเดือนในรอบต่อไปจะมาหรือไม่ หากไม่มา ก็ให้ตรวจหาการตั้งครรภ์ดูค่ะ หรือตรวจหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ