ถามแพทย์

  • อายุ 19 ปี หยุดกินยาคุมมา 1 เดือน มีเพศสัมพันธ์แล้วเลือดออก

  • สวัสดีค่ะ อายุ19ปี มีลูก1คน คือหนูไม่ได้กินยาคุมมา1เดือนแล้ว เพราะว่าอยากมีลูกอีก 2อาทิตย์แรกมีประจำเดือนมา มามากกว่าปกติประมาณ3วันแล้วหายหลังจากนั้น5วันมีเพศสัมพันกับสามีแล้วมีเลือดออกมาแต่ไม่มาก ไม่มีอาการปวดก่อนหรือตอนมีอะไรกันและหลังมี มันเกิดอะไรเป็นเพราะอะไร
    สวัสดีค่ะคุณ ตัสตี้, การมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์เกิดได้จากหลายสาเหตุ ค่ะ ได้แก่ - มีการอักเสบติดเชื้อที่ปากมดลูก หรือช่องคลอดซึ่งมักมีตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย - มีติ่งเนื้อที่ปากมดลูก - มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก มักมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย บางคนอาจมีไข้ - มะเร็งปากมดลูก - การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง พิสดาร ซึ่งอาจทำให้เกิดการฉีกขาดของช่องคลอดได้ ดังนั้นแนะนำให้คุณ ตัสตี้ ไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจภายในนะคะ จะได้ทราบสาเหตุและได้รับการรักษาที่ถูกต้องค่ะ สำหรับอาการที่ประจำเดือนมามากกว่าปกติ อาจเป็นผลหลังจากการหยุดกินยาคุมมา 1 เดือน แนะนำให้ลองสังเกตุอาการในรอบต่อไปก่อนค่ะ หากยังมีประจำเดือนมามากหรือมานานเกิน 7 วัน หรือมากะปริบกะปรอย ควรไปปรึกษาสูติ-นรีแพทย์นะคะ