ถามแพทย์

  • เหงื่อออกมือตลอดเวลา ชอบหน้ามืด วูบและมีปัสสาวะราดด้วย เกิดจากสาเหตุอะไร

  • มีอาการเหงื่อออกมือตลอดเวลาค่ะ ชอบหน้ามืด และมีอาการวูบค่ะวูบหลายทีแล้วค่ะ พอมีอาการวูบมีฉี่แตกด้วยค่ะ อาการแบบนี้เกิดจากสาเหตุอะไรคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ แม่ป้อน น้องแบทแมน,

                      อาการมีเหงื่อออกมือตลอดเวลา โดยที่ไม่ได้ออกบริเวณอื่นๆ น่าจะเป็นอาการเหงื่อออกมากชนิดปฐมภูมิ (หรือภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ) ซึ่งจะมีเหงื่อออกในช่วงกลางวัน แต่จะไม่มีเหงื่อออกขณะนอนหลับ สาเหตุเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติที่ควบคุมการทำงานของต่อมเหงื่อ ซึ่งไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดเหตุดังกล่าว แต่พบมีความสัมพันธ์กับพันธุกรรม และการเกิดอารมณ์วิตกกังวลและความเครียด

                        แต่หากอาการเหงื่อออกมาก เกิดทั่วร่างกาย และออกทั้งเวลากลางวัน และกลางคืน ถือเป็นอาการเหงื่ออกชนิดทุติยภูมิ ซึ่งมีสาเหตุได้มากมาย เช่น โรคอ้วน  มีภาวะฮอร์โมนไทรอยด์เป็นพิษ มีภาวะหัวใจวาย มีน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือเป็นโรคเบาหวาน ต่อมหมวกไตทำงานผิดปกติ โรคติดเชื้อเรื้อรัง ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด โรคตื่นตระหนก เป็นต้น

                        ดังนั้น หากอาการเหงื่อที่ออกเกิดขึ้นเฉพาะที่มือ ไม่มีอาการในตอนนอนหลับ รวมถึงมีประวัติคนในครอบครัวมีอาการเหงื่อออกมาเช่นกันแสดงว่าเป็นอาการเหงื่อออกมากชนิดปฐมภูมิ ซึ่งไม่ได้อันตรายอะไร ทั้งนี้ ควรพยายามลดความเครียดและวิตกกังวลต่างๆ หากมีอยู่ แต่หากเป็นมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ก็จำเป็นต้องรักษา ซึ่งมีหลายวิธีทั้งยาทา ยากิน การฉีดโบท็อก การผ่าตัด เป็นต้น

                        ส่วนอาการหน้ามืด วูบเป็นลม สาเหตุอาจแบ่งออกเป็น 

                       1. เป็นลมธรรมดา (vasovagal syncope) สาเหตุ เช่น ไม่สบาย เพิ่งฟื้นไข้ อดนอน หิวข้าว หิวน้ำ มีความเครียด วิตกกังวล หงุดหงิด โกรธ หรือกลัว เป็นต้น

                        อาการคือจะรู้สึกหัวเบา ตัวเบาๆ ปั่นป่วนในท้อง คลื่นไส้ ขนลุก หน้าซีด มือเท้าเย็นซีด เหงื่อแตก กลั้นปัสสาวะไม่ไหว ตาพร่ามัว มองไม่ชัด สิ่งรอบตัวมืดลงหรืออาจเห็นเป็นสีขาวโพลนก็ได้ แล้วจึงหมดสติไป หลังจากนั้นจึงจะค่อยๆ ฟื้นคืนสติในเวลาไม่กี่นาที แต่อาจจะรู้สึกมึนงง อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ไม่มีแรง และรู้สึกไม่ค่อยสบายอยู่เป็นเวลาอีก 1-2 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้นได้

                      2. เป็นลมเมื่อเปลี่ยนท่า (orthostatic hypotension)  คืออาการหน้ามืด เป็นลมเป็นเมื่อเปลี่ยนจากท่านอนเป็นท่านั่ง หรือท่ายืน โดยเฉพาะถ้าลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจากท่านอนหรือท่านั่ง มักพบในผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่ต้องนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานาน ได้รับยาบางชนิด ร่างกายขาดน้ำหรือเสียน้ำ เสียเลือดมาก มีภาวะโลหิตจาง มีโรคหลอดเลือดในสมอง โรคหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน เป็นต้น อาการก็จะเหมือนกับการเป็นลมธรรมดา

                      3. เป็นลมเพราะเบ่ง (valsalva maneuver syncope) เป็นอาการหน้ามืด เป็นลมที่เกิดขึ้นหลังการกลั้นหายใจแล้วเบ่ง เช่น เวลาเบ่งอุจจาระ เบ่งปัสสาวะ ขณะที่กำลังจะยกของหนัก ๆ หรือผลักของหนัก ๆ ให้เคลื่อนที่ เป็นต้น ซึ่งเกิดจากเลือดเข้าสู่หัวใจน้อยลง ในขณะที่กลั้นหายใจแล้วเบ่ง ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย รวมทั้งสมองน้อยลง ซึ่งอาการก็เหมือนกับการเป็นลมธรรมดาเช่นกัน

                        ดังนั้น หากมีอาการหน้ามืดและวูบเป็นลมบ่อยๆ โดยเฉพาะหากเกิดเมื่อเปลี่ยนท่าทาง ควรไปพบอายุรแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ