ถามแพทย์

  • มักมีน้ำมูกไหลตอนเช้า จามบ่อยๆ​ เหม็นจมูก ถ้าเจอฝุ่น​ อาการจะมากขึ้น มีวิธีแก้ไหม

  • สวัสดีค่ะ​ ดิฉัน​ มักจะมีอาการ​ น้ำมูกไหลตอนเช้า สายๆก็จะหาย​ บางครั้ง​ก็จามบ่อยๆ​ มีอาการเหม็นจมูกค่ะ​ ยิ่งถ้าเจอฝุ่น​ จะจามหนักมาก​ และมีน้ำมูลไหลมากขึ้นด้วยค่ะ​ พอจะทราบวิธีแก้ไข้ไหมค่ะ​ ขอบคุณค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ JANG,

                    อาการมีน้ำมูกไหลในตอนเช้า จามบ่อย เหม็นจมูก อาจเป็นอาการของ

                   1. ไข้หวัด ซึ่งเป็นโรคติดต่อของระบบเดินหายใจ จะเกิดจากการติดเชื้อไวรัส นอกจากมีอาการเจ็บคอ และมีน้ำมูกแล้ว อาจมีอาการอื่นๆ เช่น มีไข้ ไอ มีเสมหะ เสียงแหบ คัดจมูก ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว เป็นต้น อาการเหล่านี้จะหายไปได้เองใน 2 สัปดาห์

                  2. โรคภูมิแพ้ ชนิดแพ้อากาศ (allergic rhinitis) จะมีการอักเสบบริเวณโพรงจมูก เนื่องจากแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ นอกจากมีอาการมีน้ำมูกใสไหล และอาจมีอาการคันตา คันจมูก เพดานปาก และลำคอเป็นประจำ จมูกอาจได้กลิ่นลดลง บริเวณใต้ตามักเป็นรอยคล้ำดำ อาการจะเป็นติดต่อระยะเวลานาน และจะมีช่วงที่ดีขึ้นสลับกับช่วงอาการกำเริบ

                     ทั้งนี้ สารก่อภูมิแพ้ที่อาจเป็นต้นเหตุจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ได้แก่ ขนนก นุ่น ฝ้าย ฝุ่นตามบ้านหรือถนน เชื้อราต่างๆ สัตว์เลี้ยงต่างๆ ทั้ง สุนัข แมว หนู กระต่าย เกสรดอกไม้ ดอกหญ้า ไรฝุ่น แมลงสาบ และแมลงต่างๆ วัสดุเฟอร์นิเจอร์ เช่น ใยมะพร้าว เป็นต้น นอกจากนี้ความเครียดสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการได้ด้วย  

                      หากอาการมีน้ำมูกและจาม เป็นไม่นานเกิน 2 สัปดาห์ ก็อาจจะเป็นไข้หวัด แต่หากอาการเป็นต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์ หรือเป็นๆ หายๆ มาต่อเนื่อง ก็น่าจะเป็นอาการของโรคภูมิแพ้ชนิดแพ้อากาศ ซึ่งหากอาการไม่รุนแรง ก็สามารถดูแลตนเองได้ ในเบื้องต้น ต้องพยายามหาสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการและพยายามหลีกเลี่ยง หากมีน้ำมูกมาก อาจใช้วิธีล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ หากอาการเป็นต่อเนื่อง ก็อาจทานยาในกลุ่ม antihistamine เช่น cetirizine (เซทิริซีน), chlorpheniramine (CPM), loratadine (ลอราทาดีน) หลีกเลี่ยงการโดนอากาศเย็น ไม่โดนลม ไม่ดื่มน้ำเย็น หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ และหากอยู่ในที่ที่มีฝุ่นละอองมาก ก็ควรใส่หน้ากากที่ป้องกันฝุ่นละอองไว้ด้วยค่ะ 

                   นอกจากนี้ ก็ควรเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น เพื่อช่วยลดการกำเริบของอาการ เช่น การทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะเน้นทานผักและผลไม้ หลีกเลี่ยงของหวาน อาหารที่มีไขมันสูง และแป้งแปรรูปต่างๆ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้น