ถามแพทย์

  • มีอาการปวดท้อง แสบท้อง กลัวเป็นมะเร็ง

  •  Isarachon Gusumal
    สมาชิก
    ผมอายุ26คับ ไม่กินเหล้า สูบบุหรี่เลย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เรื่องเป็นอย่างนี้คับ เมื่อปลายปีทีเเล้วท้องเสียอาเจียนเฉียบพลัน เกิดจากกินอาหารที่เผ็ดจัดกับน้ำส้มคั้น หมอให้ยามากินก้อหายคับ พอมาช่วงเดือนกรกฎาคมปีนีั ผมกินก๋วยเตี๋ยวเผ็ดปานกลางกินเร็วเเละเยอะพอสมควร ไม่ถึงชั่วโมงเเละมานอน เเล้วเเสบท้องพอนอนตะเเคงขวาเเสบมาก ถ้าลุกขึ้นนั่งจะดีขึ้นอย่างมาก และก้อเป็นบ้างหายบ้างเมื่อทำพฤติกรรมเเบบเดิม ผมเป็นคนกินเร็วคับนิสัยส่วนตัวเลย เเละเมื่อปลายเดือนสิงหาคมอาการมาอีกหลังจากหยุดยาวช่วงวันเเม่ก้อกินๆนอนๆ ก้อไปหาหมอหมอก้อให้ยามากิน3-4วันมันก้อหายคับ และผมก้อยังคงมีนิสัยเเบบเดิมอีกแต่จิตตกเเล้วคับเพราะไปเปิดในเว็บดู บอกว่าเป็นอาการส่วนหนึ่งของมะเร็งในช่องท้อง ผมรู้เลยกินข้าวไม่ลงเท่าไหร่ สัปดาห์เเรกน้ำหนักลดไป3กิโลกรัม ไปหาหมอคิดว่าตับอาจผิดปรกติ เเต่เค้าตรวจเลือดให้ก้อไม่มีอะไรค่าตับผมดีกว่าหมอเสียอีกเค้าบอก คือเครียดมากคับไม่รู้จะทำยังไง แต่อาการหลักเลยผมเข้าใจว่ากระเพาะผมอยู่ฝั่งซ้าย แล้วอาการเเสบไปเกิดฝั่งขวาทำไม รวมถึงเสียงโกรกกรากมันก้อทางขวา แล้วทำไมตะเเครงขวา เหมือนความรับรู้อาการผมมันรวนหมดเเล้ว ผมควรทำอย่างไรคับ เคยออกกำลังกายบ่อยๆช่วงนี้ไม่ได้จับเลย ผอมลงด้วยเเต่ไม่มากคับ แต่ผมขับถ่ายปกติ ไม่ท้องเสีย ท้องผูกใดๆเลย เครียดมากคับ

    สวัสดีค่ะ

    สำหรับอาการปวดแสบท้อง คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร กินข้าวไม่ลง สามารถเป็นได้หลายโรคดังนี้ค่ะ

    • กรดไหลย้อน 
    • แผลในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็ก หรือที่เรียกกันว่า โรคกระเพาะนั่นเองค่ะ
    • ลำไส้อักเสบ
    • ม้าม,ตับอ่อนอักเสบ
    • เส้นเลือดผิดปกติ
    • เนื้องอก

    จากประวัติเบื้องต้น อาจจะเป็นโรคกรดไหลย้อนนะคะ ซึ่งการรักษาต้องกินยาลดกรดต่อเนื่อง อาจจะเป็นเดือนในคนไข้บางราย ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น

    • เคี้ยวอาหารให้ละเอียด ลดเนื้อสัตว์หรืออาหารย่อยยาก ลดอาหารรสจัด
    • ลดชากาแฟ แอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่
    • ไม่ควรนอนทันทีหลังกินอาหารอิ่ม
    • นอกจากนี้ การนอนตะแคงด้านซ้ายลง จะเป็นท่าที่ทำให้กระเพาะอาหารอยู่ต่ำ จึงทำให้กรดไหลย้อนขึ้นมาได้ยากขึ้น 

    ถ้ายังกังวลเรื่องมะเร็ง สามารถปรึกษากับแพทย์ เพื่อขอตรวจสุขภาพคัดกรองมะเร็งในช่องท้องได้ค่ะ แพทย์จะซักประวัติของคนไข้ หรือประวัติโรคมะเร็งในครอบครัว แล้วเลือกวิธีการตรวจคัดกรองที่เหมาะสมให้ค่ะ