ถามแพทย์

  • 6 เดือนก่อน อุดฟันไว้ แล้วมีอาการปวดฟัน จับแล้วโยก เหงือกมีสีเข้มขึ้น เป็นอะไร

  •  cat
    สมาชิก

    ก่อนหน้านี้ประมาณ6เดือน ได้อุดฟันไว้ค่ะ เป็นฟันหน้า ช่วงแแรกๆ รู้สึกเสียวฟันซี่ที่อุดเวลาทานของเย็นเลยคิดว่าอาจจะอุดไม่ดี แต่ช่วงหลังๆก็หายไป แต่เมื่อวานตื่นเช้ามาแล้วมีอาการปวดฟันซี่ดังกล่าว(ปวดหนึบๆ)   ปวดนิดหน่อยไม่มากค่ะ แต่กลัวเป็นปัญหาเกี่ยวกับเหงือกหรือรากฟันทีหลัง 

    อาการ 

    -ปวดฟันแบบหนึบๆ แต่ถ้าฟันกระทบกันหรือเคี้ยวอาหารจะเจ็บขึ้นมามากกว่าปกติ แต่ก็ไม่มาก พอทนได้ค่ะ

    -ลองจับฟันแล้วขยับ มีอาการฟันโยกนิดหน่อยค่ะ

    -เหงือกบริเวณฟันซี่ที่ปวด สีเข็มกว่าตรงอื่นค่ะ 

     อาการดังกล่าวจะทำให้ฟันหลุด อาการเหงือกอักเสบ หรืออะไรที่รุนแรงกว่านี้มั้ยคะ เพราะเป็นฟันหน้าเลยค่อนข้างกังวลค่ะ

    รบกวนคุณหมอวินิจฉัย หรือขอวิธีรักษาเบื้องต้นให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนเนื่องจากติดสถาการณ์โควิดอยู่ต่างประเทศ เลยทำให้กลับไปรักษาแบบทันทีไม่ได้ค่ะ

     

    ขอบคุณค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ cat,

                       อาการปวดฟัน โดยเฉพาะเวลาฟันกระทบกัน เหงือกมีสีเข้มกว่าปกติ อาจเกิดจาก

                         1.ฟันผุ โดยอาจเกิดตรงบริเวณเดิมที่ได้อุดฟันไป ซึ่งอาจเกิดจากการกรอฟันส่วนที่ผุออกไปไม่หมด ฟันจึงมีการผุต่อ หรือชิ้นส่วนที่อุดฟันเกิดการแตกหลุดไปบางส่วน เศษอาหารจึงเข้าไป และเกิดการผุต่อ หรือเกิดการผุที่บริเวณอื่นๆ ของฟัน

                           เมื่อฟันผุลึกเกินชั้นเคลือบฟันลงไปจนถึงชั้นเนื้อฟัน จะทำให้มีอาการเสียวฟันเมื่อทานของหวานจัด เย็นจัด หรือร้อนจัดได้ และอาจเกิดอาการปวดเวลาเคี้ยวอาหาร เนื่องจากไม่มีเคลือบฟันมาปกคลุมชั้นเนื้อฟัน ทำให้เนื้อฟันสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ที่เข้าปากโดยตรงและส่งความรู้สึกไปที่ประสาทฟัน

                          หากปล่อยทิ้งไว้ ฟันผุจะลุกลามลึกไปถึงชั้นโพรงประสาทฟัน ทำให้มีอาการปวดมากขึ้น หากทิ้งไว้ไม่รักษา เชื้อโรคก็จะยิ่งลงลึกและอาจทำให้เกิดเป็นฝีหนองที่ปลายรากฟัน ส่วนตัวฟันก็จะโยกหลุดไปในที่สุด นอกจากนี้ ก็จะทำให้มีอาการเหงือกอักเสบตามมา จากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในฟันที่ผุได้ ซึ่งก็จะทำให้เหงือกบวมแดง และปวด

                        2, เหงือกอักเสบ สาเหตุเกิดจากการมีคราบหินปูนสะสมบนเหงือกส่วนที่หุ้มฟัน ทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตและเกิดการอักเสบตามมาได้ ซึ่งการมีคราบหินปูนสะสม โดยส่วนใหญ่เกิดจากทำความสะอาดในช่องปากที่ไม่ดีพอ หรือการกินอาหารบางอย่างก็อาจทำให้เศษอาหารติดตามซอกหลืบได้ง่าย เช่น เนื้อสัตว์ที่แข็งเหนียว สำหรับอาหารรสจัด ก็อาจเป็นสาเหตุได้ เพราะอาหารรสจัดมักมีน้ำตาลผสมอยู่เยอะ จึงทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของเหงือกอักเสบได้ เช่น มีฟันผุร่วมอยู่ด้วย มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเพศ เช่น ช่วงตั้งครรภ์ในผู้หญิง มีการติดเชื้อราในช่องปาก ใส่ฟันปลอม มีภาวะภูมิต้านทานโรคต่ำ ผู้สูงอายุ ขาดสารอาหาร เป็นต้น

                        หากปล่อยทิ้งไว้ ก็จะกลายเป็นโรคปริทันต์อักเสบ (periodontitis) ตามมาได้ โดยในโรคปริทันต์อักเสบ เหงือกในชั้นที่ยึดติดกับรากฟัน เยื่อปริทันต์ รากฟัน กระดูกเบ้าฟันจะเกิดการอักเสบ ซึ่งจะทำให้ฟันเกิดการโยกและหลุดออกในที่สุด

                         ทั้งนี้ อาจเกิดจาก 2 สาเหตุร่วมกันก็ได้

                        ดังนั้นควรต้องหาเวลาไปทันตแพทย์เพื่อตรวจและรับการรักษานะคะ ในเบื้องต้นควรทำความสะอาดทุกส่วนในช่องปากให้เพียงพอ โดยการแปรงฟันทุกครั้งหลังทานอาหาร แปรงอย่างน้อย 3-5 นาที รวมทั้งแปรงลิ้นด้วย และควรใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย การใช้น้ำยาบ้วนปากร่วมด้วยก็จะช่วยลดเศษคราบต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น งดการทานอาหารรสจัด อาหารที่หวานจัด น้ำหวานต่างๆ รวมถึงอาหารที่เหนียวและเคี้ยวยาก ในส่วนบริเวณที่ปวดฟัน ปวดเหงือก หากไม่สามารถแปรงได้ ควรบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ (น้ำผสมเกลือแกง) บ่อยๆ ไปก่อนค่ะ