ถามแพทย์

  • คุณตามีอาการปวดท้อง และท้องเสียมา 3-4 วัน ไม่หายสักที เกิดจากสาเหตุใดและแก้ไขอย่างไร

  •  Too Ben
    สมาชิก
    คุณตามีอาการปวดท้อง และท้องเสียมาเป็นเวลา3-4วันไม่หายสักที ทั้งๆทีกินอาหารอ่อนๆมาตลอดอยากทราบว่ามันเกิดจากสาเหตุใดและแก้ไขได้อย่างไงคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Too Ben,

                       อาการท้องเสีย หากยังเป็นไม่นานเกิน 2 สัปดาห์ ถือเป็นอาการท้องเสียแบบเฉียบพลัน ซึ่งมักเกิดจากอาหารเป็นพิษ หรือ ลำไส้อักเสบแบบเฉียบพลับ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อที่มาจากการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคหรือพิษของเชื้อโรค หรือจากมือหรือภาชนะที่ใส่อาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด เชื้อโรคส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย ซึ่งมีหลายชนิด

                       การดูแลรักษา ได้แก่ การดื่มน้ำสะอาดให้มาก และดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย ส่วนอาหาร พยายามเลือกทานอาหารอ่อน อาหารที่ย่อยง่าย รสจืด เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด ของผัด และเนื้อสัตว์ เพราะย่อยยาก และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพราะจะยิ่งทำให้ถ่ายมากขึ้น นอกจากนี้ อาจทานคาร์บอน เพื่อช่วยการดูดซับสารพิษค่ะ

                      หากลักษณะของอุจจาระมีมูกปน หรือเป็นมูกปนเลือด หรือมีกลิ่นเหม็นรุนแรง หรือมีอาการปวดบิดท้อง หรือปวดเบ่งเวลาถ่าย หรือมีไข้ ก็น่าจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียมากกว่าไวรัส ดังนั้น แนะนำให้ใช้ยาปฎิชีวนะฆ่าเชื้อ เช่น นอร์ฟลอกซาซิน (norfloxacin) เพื่อให้อาการหายเร็วขึ้นค่ะ

                      แต่หากยังคงถ่ายอุจจาระเหลวต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์ หรือร่างกายมีภาวะขาดน้ำ ซึ่งสังเกตได้จากการมีริมฝีปากแห้ง ผิวแห้ง เบ้าตาลึก หัวใจเต้นเร็ว ปัสสาวะออกน้อย สีเหลืองเข้ม เป็นต้น หรือมีอาการปวดท้องรุนแรง ก็ควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ