ถามแพทย์

  • ปวดท้องคล้ายปวดประจำเดือนบ่อยๆ มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ เกิดจากอะไร ควรไปพบแพทย์ไหม

  •  Preeyanuch Ann
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะ ขอสอบถามอาการที่เป็นอยู่ช่วงนี้หน่อยค่ะ ว่าปกติไหมคะ

    ช่วงนี้ในเดือนนี้ (ก.ค.) มีประจำเดือนมา วันที่ 6-10 (5วัน) จะปวดท้องและปวดหลังตั้งแต่วันที่ 3-11 มีเพศสัมพันธ์แบบป้องกันโดยใส่ถุงยางวันที่ 4 แล้วในวันที่ 8 เริ่มปวดท้องปวดหลัง และเวียนศีรษะจนทนไม่ไหว ไปพบแพทย์วันที่ 9 แพทย์ได้ตรวจภายใน ตรวจการตั้งครรภ์แล้ว ไม่พบผิดปกติอะไร หรือการตั้งครรภ์ แพทย์จึงแนะนำให้ฉีดยาคุมกำเนิดเพื่อไม่ให้ปวดประจำเดือนอีก

    ต่อมาวันที่ 21-25 ได้มีประจำเดือนมาอีก มาน้อยแบบกะปริบกะปรอย สีเข้ม มีอาการปวดท้อง ปวดหลัง และเวียนศีรษะ แต่น้อยกว่าช่วงแรก

    และต่อมาอีกวันที่ 29 หลังมีเพศสัมพันธ์แบบป้องกันโดยใส่ถุงยาง ก็มีเลือดออกมา สีเข้มอีก ในปริมาณไม่มาก และมีอาการปวดท้อง ปวดหลัง เวียนศีรษะค่ะ

    จากประวัติการรักษา เคยเป็นช็อกโกแลตซีสต์ที่รังไข่ข้างซ้าย แล้วผ่าตัดออกไปทั้งรังไข่ข้างซ้าย พร้อมกับใส้ติ่ง เมื่อ 25 ธ.ค. 2557 แล้วเริ่มฉีดยาคุมเมื่อ 5 ม.ค. 2558 ซึ่งหลังฉีดไม่มีประจำเดือนมาเลย ไปพบแพทย์ตรวจภายในทุกปี แล้วฉีดตลอดจนถึง 20 ธ.ค. 62 (เป็นเวลา5ปี) เพราะแพทย์แนะนำให้เลิกฉีดได้ หลังจากนี้รอให้มีประจำเดือนมา แล้วมีประจำเดือนมาวันที่ 16-19 พ.ค. 2563 มีสีปกติ ไม่มีกลิ่น อาการปวดท้อง ปวดหลัง และเวียนศีรษะน้อย แล้วประจำเดือนก็มาอีกครั้งในเดือนนี้ (ก.ค.) ที่มีอาการจนต้องไปพบแพทย์ ปัจจุบันมีอายุ 27 ปี ยังไม่มีลูกค่ะ

    Preeyanuch Ann  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Preeyanuch Ann

    การปวดท้องประจำเดือนนั้น พบได้เป็นปกติใน1-2 วันแรกของการมีประจำเดือน จะทำให้สงสัยว่าปวดมากผิดปกติก็ต่อเมื่อปวดมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือปวดมากขึ้นเรื่อยๆในแต่ละรอบเดือน

    โดยสาเหตุที่พบได้บ่อยๆที่ทำให้ปวดประจำเดือนมากผิดปกติขึ้นเรื่อยๆเช่น การมีเนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นผิดที่ มีภาวะถุงน้ำที่รังไข่ โดยเฉพาะช็อกโกแลตซีสต์ ซึ่งเกิดจากเซลล์เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ไปที่รังไข่และก่อตัวเป็นถุงน้ำ  หรือการมีมดลูกอักเสบ หรืออุ้งเชิงกรานอักเสบ เป็นต้น

    ดังนั้นอาการที่เป็นอยู่อาจจะเป็นช็อกโกแลตซีสต์ที่เป็นขึ้นมาใหม่ หรือสาเหตุอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกันก็ได้ดังที่กล่าวไป  อีกสาเหตุที่อันตรายและอาจพบได้กรณีมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ร่วมด้วยเช่นเนื้องอกที่ปากมดลูก

    ดังนั้นควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายใน ตรวจอัลตราซาวน์หน้าท้อง ร่วมกับคัดกรองภาวะมะเร็งปากมดลูกไปด้วยค่ะ

    เบื้องต้นงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน  ยังไม่ซื้อยาปรับฮอร์โมนใดๆมาใช้เอง รับประทานยาแก้ปวดในกลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ได้ พักผ่อน งดการทำงานหนักระหว่างมีประจำเดือน