ถามแพทย์

  • ทำหมันมา 5 ปี ประจำเดือนไม่มา 2 เดือน ตรวจแล้วไม่ท้อง มีอาการฉี่บ่อย เป็นเพราะอะไร

  •  Minchaya Palasen
    สมาชิก

    ประจำเดือนไม่มา 2 เดอืนแล้วค่ะทำหมันมา 5 ปี ปกติจะมาตลอด มี 2 เดอืนที่ผ่านมาประจำเดือนไม่มาเลย ซื้อท่ตรวจมาตรวจก้อไม่ท้องเลยค่ะ มีอาการฉี่บ่อยมากจะเป็นอะไรหรือเนื้องอกหรือโรคอะไรร้ายแรงไหมค่ะแล้วมีโอกาสท้องได้จิงๆไหมค่ะ

     สวัสดีค่ะ คุณ Minchaya Palasen,

                          แม้จะทำหมันแล้ว ก็มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ แต่ก็ถือว่าน้อยอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้ว ไม่พบว่ามีการตั้งครรภ์ สาเหตุที่ประจำเดือนไม่มา จึงน่าจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ค่ะ เช่น

                        1. มีความเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย อดนอน นอนดึก อดอาหาร มีน้ำหนักลด

                      2. โรคอ้วน เนื่องจากคนอ้วนมีเซลล์ไขมันจำนวนมาก ซึ่งเซลล์ไขมันสามารถสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ในปริมาณเล็กน้อย เมื่อมีปริมาณมากเกิน จึงกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศที่ปกติได้ 

                       3. มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ หรือไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ 

                       4. มีพังผืดเกิดขึ้นในมดลูก จากการเคยมีมดลูกอักเสบ

                       5. มีเนื้องอกของต่อมใต้สมอง แต่จะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ มองเห็นภาพซ้อน มีน้ำนมไหล เป็นต้น

                       6. รังไข่เสื่อมก่อนกำหนด

                       หากประจำเดือนไม่มานานเกิน 3 เดือน แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ

                        สำหรับอาการปัสสาวะบ่อย หากมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น แสบและปวดขณะปัสสาวะ กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะขุ่น หรือปัสสาวะมีเลือดปน น่าจะเกิดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ แต่หากไม่มีอาการดังกล่าว อาจเกิดจาก

                      - การดื่มน้ำมากไป ดื่มแอลกอฮอล์มากหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากไป โดยปริมาณของปัสสาวะมักจะมากตามด้วย รวมถึงอุณหภูมิของอากาศที่เย็น ก็จะกระตุ้นให้ปวดปัสสาวะบ่อยได้

                      - โรคเบาหวาน โรคเบาจืด มักมีอาการหิวน้ำบ่อยร่วมด้วย และปริมาณของปัสสาวะจะมากตามด้วย 

                       - กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (overactive bladder) นอกจากปัสสาวะบ่อยครั้ง อาจมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะเล็ดราดร่วมด้วย 

                       - นิ่วหรือก้อนเนื้อในกระเพาะปัสสาวะ หรือเนื้องอกมดลูก และไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้กระเพาะปัสสาวะเต็มเร็วขึ้น เลยทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้นกว่าปกติ

                       - ไตเรื้อรัง ไตวาย มักมีอาการปัสสาวะบ่อยในช่วงกลางคืนมากกว่ากลางวัน และจะมีอาการอื่นๆ อีก เช่น หนังตาบวม ขาบวม เหนื่อยง่าย คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร เป็นต้น

                       - การมีความเครียด วิตกกังวล ก็จะทำให้มีความรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยได้ 

                       หากยังคงมีอาการปัสสาวะบ่อยทุกวัน จนรบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาค่ะ

    Minchaya Palasen  Minchaya Palasen
    สมาชิก

    ขอบคุณค่ะนู่ควรไปพบแพทย์นะคะ