ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมาปีละ 1-2 ครั้ง แต่ปีนี้ มาบ่อยและมานาน 10-16 วัน ควรทำอย่างไร อยู่กับสามีมา 10 ปี ยังไม่มีลูก

  •  Phikul Pakkla
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ พอดีจะถามเรื่องประจำเดือนมาไม่ปกติค่ะ คือหนูมีสามีอยู่ด้วยกันแล้วค่ะไม่เคยป้องกันอะไรยาคุมก็ไม่เคยกิน10ปีละค่ะไม่ท้องและประจำเดือนเมื่อก่อนก็ไม่ค่อยมีปีนึงมาหนสองหนเองค่ะมาช่วง4-5ปีมานี้มาเยอะเดือนนึงมา10-16วันตอนนี้ล่าสุดเป็นมาจะ3เดือนละค่ะมาทุกวันเยอะบ้างน้อยบ้างหายได้1-2วันก็มาอีกเป็นแบบนี้ไม่หายเลยค่ะตอนนี้มีคำแนะนำบ้างไหมคะ อ่อช่วงแรกๆที่คบกะแฟนก็กินยาคุมนะคะกินได้ไม่ถึงปีค่ะ อยากถามว่ามียาตามร้านยารักษาไหมคะขอคำแนะนำค่ะ ขอบคุนสำหรับคำตอบนะคะ ขอบคุนค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Phikul Pakkla,

                       หากไม่ได้ใช้วิธีการคุมกำเนิด และมีเพศสัมพันธ์อย่างสส่ำเสมอ แต่ยังไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ถือว่ามีภาวะมีบุตรยาก ซึ่งหากต้องการที่จะตั้งครรภ์ ก็ควรต้องไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ โดยต้องไปตรวจทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย เพราะอาจเกิดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้

                       สำหรับการที่ประจำเดือนมาปีละ 1-2 ครั้ง และต่อมามีประจำเดือนมานานและบ่อยกว่าปกติ ถือเป็นอาการผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจาก

                       1. การทำงานผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น ภาวะที่มีถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) 

                      2. ความผิดปกติที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น 

                       3. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษหรือไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เป็นต้น

                       4. การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ รวมถึงยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เป็นต้น

                       5. มีมดลูกอักเสบติดเชื้อ แต่จะมีตกขาวที่ผิดปกติและอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย 

                        แนะนำว่าควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เพราะการมีเลือดออกบ่อยๆ แม้จะมีปริมาณไม่มาก อาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจางตามมาได้