ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมา 3 ครั้ง และหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไป 7 วัน มีตกขาวสีน้ำตาล แล้วมีเลือดออก หน่วงท้องด้านขวา รู้สึกเสียด ๆ เกิดจากอะไร

  •  Jamnh
    สมาชิก
    ก่อนหน้านั้นประจำเดือนมา3ครั้งค่ะ เป็นคนประจำเดือนมาไม่ปกติ ล่าสุดมาวันที่30-3พ.ย. มีเพศสัมพันธ์วันที่7 มีการสอดใส่ก่อนป้องกัน แต่ไม่นาน ประมาณ1-2นาที จนผ่านไป7วัน ก็มีตกขาวสีน้ำตาลตลอด ล้วงดูบางทีก็ยังมีเลือดอยู่ แล้วก็ค่อยๆหาย จนประมาณ10-14วัน อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนประจำเดือนไหล เป็นตกขาวที่ปนเลือด เลยใส่ผ้าอนามัยไว้ตกเย็นมาก็ไม่ได้เป็นประจำเดือน แล้วพอประมาณวันที่22พ.ย. ก็มีเพศสัมพันธ์อีก ป้องกันค่ะ แต่หลังจากนั้น ก็เริ่มมีอาการหน่วงท้อง แล้วก็จะหน่วงแบบเสียดๆแบบเวลา อยากทราบว่า อาการข้างต้นเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Jamnh,

                          หากประจำเดือนมา 3 ครั้งใน 1 เดือน ก็ถือเป็นอาการเลือดออกจากช่องคลอดที่ผิดปกติ ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 7 พ.ย. หากใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน โอกาสในการตั้งครรภก็มีน้อยอยู่ สำหรับการสอดใส่ก่อนหน้า หากยังไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิเกิดขึ้น โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ไม่มี

                          หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไป 7 วัน หากมีตกขาวสีน้ำตาลออกมา หากออกมานานหลายวัน ก็ถือเป็นอาการเลือดออกผิดปกติ และผ่านไปอีก 10-14 วัน การที่มีเลือดไหลออกมาอีก ก็เป็นอาการเลือดออกผิดปกติเช่นกัน

                          ทั้งนี้ หากต่อมามีอาการปวดหน่วงท้องร่วมด้วย ประกอบกับการที่มีเลือดออกมาบ่อยๆ อาจเกิดจากสาเหตุ เช่น มีมดลูกอักเสบ มีเนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น หรือหากมีการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ อยู่ ก็อาจเป็นสาเหตุได้ด้วยค่ะ 

                           ดังนั้น แนะนำว่าควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ ในเบื้องต้น ก็ควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วย เพราะก็อาจเป็นอาการของภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ได้ด้วยค่ะ