ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ กินยาคุมฉุกเฉิน แล้วประจำเดือนมาในวันนั้น ได้เริ้มทานยาคุมกำเนิดไป มีอาการไม่ปกติ เกิดจากท้องหรือยาคุม

  •  Janes
    สมาชิก
    เป็นการมีเซ็กครั้งแรกของเรา มีอะไรกับแฟนวันที่4ตอนกลางคืนก่อนประจำเดือนมา1 วัน ไม่ได้ป้องกัน แต่แตกข้างนอก พอเช้าวันต่อมาก็ทานยาคุมฉุกเฉินไป พอตอนเย็นมีอะไรกับแฟนแต่แตกข้างนอก ตอน ทุ่มกว่า กินยาคุมฉุกเฉิน เม็ดที่2 ไป แล้วประจำเดือนก็มาปกติ แต่มีอาการปวดท้องเล็กน้อย ตั้งแต่ วัน ที่ 6-9 ประจำเดอน มาปกติ จนวันที่10 ประจำเดือนไม่มา ทีแรกคิดว่าหายแล้ว  วันที่ 11 ก็มีเลือดออกมา แต่ไม่เยอะมาก   แต่วันที่8 ได้ไปซื้อยาคุม 21 เม็ดมาทานเพราะหมอร้านยาบอกว่า ให้ทานได้เลย   มีโอกาสจะท้องมั้ยค่ะ พอครบ7วันหลังจากที่มีเซ็ก ก็ได้ไปตรวจ ที่ รพ แต่ไม่พบการตั้งครรภ์ แต่รู้สึกว่าร่างกายตัวเองไม่ปกติค่ะ หรือเป็นผลจากการกินยาคุมครั้งแรกรึเปล่าค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Janes,

                           การมีเพศสัมพันธ์ โดยใช้วิธีการหลั่งนอกนั้น อาจมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ อย่างไรก็ตาม หากคาดว่าประจำเดือนจะมาในอีก 1 วัน และโดยปกติประจำเดือนมาสม่ำเสมอดี ก็เท่ากับมีเพศสัมพันธ์ในระยะปลอดภัย ดังนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องทานยาคุมฉุกเฉินไปค่ะ แต่หากได้ทานไปแล้ว ก็ไม่ได้อันตรายอะไร และหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปในวันเดียวกันนั้น ได้มีประจำเดือนมา โดยมาในวันที่ 6-9 มี.ค. ก็ถือว่าปกติดี และแสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ

                          ส่วนในวันที่ 8 มี.ค. หากได้เริ่มทานยาคุมกำเนิดไป ก็เท่ากับได้ทานภายในไม่เกิน 5 วัน นับจากวันแรกที่มีประจำเดือนมา ยาคุมก็จะสามารถออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีค่ะ

                          ส่วนอาการไม่ปกติต่างๆ ที่รู้สึกเกิดขึ้นมานั้น อาจเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมได้ โดยยาคุมอาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ เวียนหัว ปวดหัว เจ็บเต้านม ปวดท้อง ตัวบวมขึ้น เป็นต้น แต่ก็มักจะเป็นเพียงแค่ในช่วงแรก เมื่อทานยาคุมต่อเนื่องไปเรื่อยๆ อาการก็จะค่อยๆ หายไปเองค่ะ ดังนั้น หากอาการเป็นไม่มาก ก็ไม่จำเป็นต้องหยุดทานยาคุมค่ะ