ถามแพทย์

  • ทานยาคุมต่อเนื่องมาตลอด ในแผงที่ 10 มีเลือดออกเล็กน้อยก่อนยาหมดแผง

  •  ss.chom
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะ..ทานยาคุมกำเนิดชนิด 21 เม็ด เข้าแผงที่ 10 แล้วค่ะ ไม่เคยลืมทาน และค่อนข้างทานตรงเวลาค่ะ (+- ไม่เกินครึ่งชั่วโมง) ที่ผ่านมาปกติดีค่ะ ประจำเดือนจะมาในช่วงที่หยุดยาวันที่ 2-4 แต่ครั้งนี้ (แผงที่ 10) เหลือยาอีก 4 เม็ดค่ะ มีเลือดออกมาติดกระดาษทิชชู่เป็นสีแดงจางๆออกชมพูค่ะ (ในช่วงเย็นแค่นั้น) ตอนกลางคืนก็ไม่มีออกแล้วค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วกำหนดวันที่ ประจำเดือนจะมาคืออีก 5-6 วัน (แต่เริ่มมีอาการคล้ายกับจะเป็นประจำเดือนนิดหน่อยค่ะ) อยากทราบว่า

    1 .อาการที่เป็นนี้ ผิดปกติหรือเปล่าคะ คือส่วนตัวไม่แน่ใจว่าเป็นประจำเดือนที่เตือนหรือมีโอกาสตั้งครรภ์คะ

    2. ถ้าเป็นประจำเดือนจริงๆ การทานยาคุมกำเนิด ต้องทานปกติหรือว่าต้องเริ่มใหม่อย่างไรหรือเปล่าคะ

    ขอบคุณค่ะ 

    สวัสดีค่ะ คุณ ss.chom,

                 การทานยาเม็ดคุมกำเนิด อาจมีผลข้างเคียงให้เกิดเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ โดยเฉพาะหากมีการเปลี่ยนยี่ห้อ ดังนั้น

               1. หากเป็นคนที่ทานยาคุมกำเนิดอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีการลืม ทานตรงเวลาทุกวัน หรือในเวลาใกล้เคียงกัน ไม่มีท้องเสียหรืออาเจียนร่วม ไม่ได้ทานยาอื่นๆ ร่วมด้วย เช่นยาปฏิชีวนะบางชนิด ยากันชัก ยาต้านไวรัส HIV เป็นต้น โอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นจะน้อยกว่า 1% ค่ะ ดังนั้นเลือดที่ออกจึงไม่น่าใช่เลือดที่เป็นผลจากการตั้งครรภ์ค่ะ แต่อาจเป็นผลข้างเคียงของยาหรือจากสาเหตุอื่นๆ ได้ เช่น การติดเชื้อในช่องคลอด มีติ่งเนื้อที่ปากมดลูก เป็นต้น

                แต่หากมีลืมทานยาบ้าง ทานไม่ตรงเวลา ทานยาอื่นร่วม มีท้องเสียหรืออาเจียน หรือยาคุมเสื่อมสภาพ ก็มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ ซึ่งเลือดที่ออกมาเล็กน้อยนั้น อาจเป็นอาการแสดงของการตั้งครรภ์หรือเลือดล้างหน้าเด็กได้ค่ะ

              2. แนะนำให้ทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่องไปจนหมดแผงก่อนค่ะ เมื่อครบ 21 เม็ดแล้ว ให้สังเกตดูว่าในช่วง 7 วันที่หยุดทานนั้น มีเลือดประจำเดือนมาหรือไม่ หากไม่มี แนะนำให้ลองตรวจหาการตั้งครรภ์ค่ะ 

               แต่หากประจำเดือนมาแล้ว แต่ยังคงมีเลือดออกกะปริดกะปรอยอยู่เรื่อยๆ แม้จะทานยาคุมอยู่ หรือเป็นตกขาวที่มีเลือดปน แนะนำให้พบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ