ถามแพทย์

  • อายุ 19 ปี 3 เดือนก่อนถ่ายเป็นเลือด หมอบอกว่าเป็นริดสีดวง ต่อมา 1 เดือน มีถ่ายเป็นเลือดอีก จะเป็นมะเร็งลำไส้ไหม

  •  Phubet
    สมาชิก

    สวัสดีครับคุณหมอผมอายุ19ปี เมื่อ3เดือนก่อนผมถ่ายเป็นปนเลือดออกมาเยอะมากๆครับ ผมไปหาหมอแล้วครับหมดบอกว่าเป็นริดสีดวงครับผมก็กินยาปกติทุกวันครับ อีก1เดือนถัดมาผมถ่ายไม่ค่อยออกแล้วเบ่งอุราจะแล้วมีเลือดหยดตามครับออกประมาณใส่3ช้อนโต๊ะน่าจะได้

    ผมจะเป็นอะไรไหมครับ กลัวเป็นมะเม็งลำไส้ครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Phubet,

                        อาการถ่ายอุจจาระแล้วมีหยดตามมา สาเหตุที่พบบ่อย คือ

                      1. ริดสีดวงทวารชนิดภายใน เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดดำที่ทวารหนัก อาการคือจะเป็นเลือดสีแดงสดหยดออกมาพร้อมกับอุจจาระหรือหลังถ่ายอุจจาระ บางรายเลือดอาจมีปริมาณมากได้ แต่จะไม่มีอาการเจ็บหรือปวดบริเวณรูทวาร  ซึ่งสาเหตุ ได้แก่ การมีท้องผูกเป็นประจำ การชอบเบ่งถ่าย นั่งอุจจาระนาน ใช้ยาสวนบ่อย น้ำหนักตัวมาก เป็นต้น

                      2. แผลปริขอบทวารหนัก เกิดจากก้อนอุจจาระมีขนาดใหญ่ หรือแข็ง หรือออกแรงเบ่งมาก ก้อนอุจจาระอาจไปครูดกับเยื่อบุของทวารหนัก ทำให้เกิดเป็นแผลและมีเลือดออกได้ หรือเกิดจากการมีถ่ายอุจจาระเหลวเรื้อรัง ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักมากกว่าปกติจนเกิดฉีกขาด หรือจากการร่วมเพศทางทวารหนัก หรือการใส่นิ้วหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในทวารหนัก ซึ่งเลือดที่ออกจะมีปริมาณไม่มาก แต่จะมีอาการปวดหรือเจ็บรูทวารหนักร่วมด้วย       

                       สำหรับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่นั้น มักพบในคนอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป โอกาสที่จะพบในช่วงอายุ 19 ปีนั้นน้อยมาก ยกเว้นมีพันธุกรรมที่ผิดปกติ ส่วนอาการ นอกจากมีถ่ายอุจจาระเป็นเลือดแล้ว ก็จะมีอาการถ่ายไม่สุด ปวดท้องเรื้อรัง มีท้องเสียสลับกับท้องผูกเรื้อรัง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (5% ใน 3 เดือน) เป็นต้น

                        ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้มีถ่ายเป็นเลือด แต่พบได้น้อย เช่น ลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง ภาวะลำไส้ขาดเลือด มีเลือดออกจากกระเพาะอาหารที่มีแผลหรือเส้นเลือดโป่งพอง มีติ่งเนื้อหรือก้อนเนื้อในลำไส้ใหญ่ เป็นต้น แต่ก็จะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยอีก

                        ดังนั้น หากมีเฉพาะอาการถ่ายเป็นเลือด ไม่มีปวดท้องเรื้อรัง ไม่มีอาการเจ็บหรือปวดรูทวาร และได้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจแล้ว ก็น่าจะเป็นริดสีดวงทวารดังที่ได้รับการวินิจฉัยมาค่ะ ในเบื้องต้น ก็พยายามอย่าให้ท้องผูก และอย่าให้อุจจาระแข็งโดยการดื่มน้ำเปล่ามากๆ เน้นทานผักและผลไม้สด ไม่เบ่งถ่ายอุจจาระ ไม่นั่งถ่ายอุจจาระนาน เป็นต้น หากไม่ถ่ายอุจจาระเกิน 3 วัน หรืออุจจาระแข็งมาก ก็ควรทานยาระบายค่ะ แต่หากถ่ายเป็นเลือดนานต่อเนื่อง ก็ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อรับยารักษาค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Phubet,

                        อาการถ่ายอุจจาระแล้วมีหยดตามมา สาเหตุที่พบบ่อย คือ

                      1. ริดสีดวงทวารชนิดภายใน เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดดำที่ทวารหนัก อาการคือจะเป็นเลือดสีแดงสดหยดออกมาพร้อมกับอุจจาระหรือหลังถ่ายอุจจาระ บางรายเลือดอาจมีปริมาณมากได้ แต่จะไม่มีอาการเจ็บหรือปวดบริเวณรูทวาร  ซึ่งสาเหตุ ได้แก่ การมีท้องผูกเป็นประจำ การชอบเบ่งถ่าย นั่งอุจจาระนาน ใช้ยาสวนบ่อย น้ำหนักตัวมาก เป็นต้น

                      2. แผลปริขอบทวารหนัก เกิดจากก้อนอุจจาระมีขนาดใหญ่ หรือแข็ง หรือออกแรงเบ่งมาก ก้อนอุจจาระอาจไปครูดกับเยื่อบุของทวารหนัก ทำให้เกิดเป็นแผลและมีเลือดออกได้ หรือเกิดจากการมีถ่ายอุจจาระเหลวเรื้อรัง ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักมากกว่าปกติจนเกิดฉีกขาด หรือจากการร่วมเพศทางทวารหนัก หรือการใส่นิ้วหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในทวารหนัก ซึ่งเลือดที่ออกจะมีปริมาณไม่มาก แต่จะมีอาการปวดหรือเจ็บรูทวารหนักร่วมด้วย       

                       สำหรับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่นั้น มักพบในคนอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป โอกาสที่จะพบในช่วงอายุ 19 ปีนั้นน้อยมาก ยกเว้นมีพันธุกรรมที่ผิดปกติ ส่วนอาการ นอกจากมีถ่ายอุจจาระเป็นเลือดแล้ว ก็จะมีอาการถ่ายไม่สุด ปวดท้องเรื้อรัง มีท้องเสียสลับกับท้องผูกเรื้อรัง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (5% ใน 3 เดือน) เป็นต้น

                        ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้มีถ่ายเป็นเลือด แต่พบได้น้อย เช่น ลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง ภาวะลำไส้ขาดเลือด มีเลือดออกจากกระเพาะอาหารที่มีแผลหรือเส้นเลือดโป่งพอง มีติ่งเนื้อหรือก้อนเนื้อในลำไส้ใหญ่ เป็นต้น แต่ก็จะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยอีก

                        ดังนั้น หากมีเฉพาะอาการถ่ายเป็นเลือด ไม่มีปวดท้องเรื้อรัง ไม่มีอาการเจ็บหรือปวดรูทวาร และได้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจแล้ว ก็น่าจะเป็นริดสีดวงทวารดังที่ได้รับการวินิจฉัยมาค่ะ ในเบื้องต้น ก็พยายามอย่าให้ท้องผูก และอย่าให้อุจจาระแข็งโดยการดื่มน้ำเปล่ามากๆ เน้นทานผักและผลไม้สด ไม่เบ่งถ่ายอุจจาระ ไม่นั่งถ่ายอุจจาระนาน เป็นต้น หากไม่ถ่ายอุจจาระเกิน 3 วัน หรืออุจจาระแข็งมาก ก็ควรทานยาระบายค่ะ แต่หากถ่ายเป็นเลือดนานต่อเนื่อง ก็ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อรับยารักษาค่ะ