อายุ 18 ปี ถ่ายเป็นเลือดสีแดงสด ไม่เจ็บ เป็นๆ หายๆ มา 2 เดือน มีถ่ายยาก จะเป็นมะเร็งไหม

 สวัสดีค่ะ คุณ Palita Pakdeepon,

                   สาเหตุของถ่ายอุจจาระเป็นเลือด อาจเกิดจาก

                  1. ริดสีดวงทวารชนิดภายใน  ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดบริเวณทวารหนักมีการโป่งพองออก เมื่อหลอดเลือดถูกครูดด้วยอุจจาระหรือแตกออกจากแรงเบ่ง จะทำให้มีเลือดออก โดยจะเป็นเลือดสีแดงสดหยดออกมาพร้อมกับอุจจาระหรือหลังถ่ายอุจจาระ บางรายเลือดอาจมีปริมาณมากได้ โดยจะไม่ได้มีอาการเจ็บหรือปวดที่รูทวารหนัก สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการมีท้องผูก หรืออาจเกิดจากการตั้งครรภ์ การเบ่งอุจจาระ การนั่งถ่ายอุจจาระเป็นเวลานาน มีอุจจาระเสียเรื้อรัง โรคอ้วน การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เป็นต้น

                2. แผลปริขอบทวารหนัก เกิดจากก้อนอุจจาระที่แข็งหรือมีขนาดใหญ่ ก้อนอุจจาระก็อาจจะไปครูดกับเยื่อบุของทวารหนัก ทำให้เกิดเป็นแผล ซึ่งมักมีเลือดสีแดงสดติดออกมากับก้อนอุจจาระหรือติดกระดาษที่ใช้เช็ดก้น มักมีอาการเจ็บหรือแสบบรูทวารหนักร่วมด้วย

                 ส่วนสาเหตุอื่นๆ นั้นพบได้น้อย และต้องมีอาการอื่นๆมากกว่านี้ร่วมด้วย เช่น ทวารหนักและไส้ตรงอักเสบ ลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง ลำไส้ขาดเลือด มีเลือดออกจากหลอดเลือดที่โป่งพองที่เกิดขึ้นในหลอดอาหาร (มักพบในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์มาก หรือเป็นโรคตับแข็ง) มีติ่งเนื้อหรือก้อนเนื้อในลำไส้ใหญ่ มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น

                  สำหรับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่นั้น พบได้น้อยมากมากในคนอายุ 18 ปี และนอกจากมีอาการถ่ายอุจจาระเป็นเลือดแล้ว จะมีอาการปวดท้องเรื้อรัง เบื่ออาหาร มีน้ำหนักลดอย่างมีนัยสำคัญ

                 ดังนั้น หากมีแค่อาการถ่ายเป็นเลือด ไม่มีอาการอื่นๆ อีก รวมถึงมีประวัติของการถ่ายอุจจาระยาก หรือท้องผูก ก็น่าจะเกิดจากริดสีดวงทวารค่ะ 

                 ในเบื้องต้น จึงควรพยายามอย่าให้ท้องผูก  โดยการดื่มน้ำเปล่ามากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เน้นทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง จำพวกผัก ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ หรืออาจทานไฟเบอร์สำเร็จรูปเสริม การทานโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวอาจช่วยให้ถ่ายง่ายขึ้นได้ เนื่องจากมีแบคทีเรียที่ไปช่วยการทำงานของลำไส้ใหญ่ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้ลำไส้เคลื่อนไหว และควรฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา

                หากไม่ถ่ายอุจจาระนานเกิน 3 วัน หรืออุจจาระแห้ง แข็ง เป็นก้อนเล็กๆ ควรหายาระบายช่วย ซึ่งมีหลายชนิด แต่ควรใช้เป็นเพียงครั้งคราว ไม่ควรใช้ต่อเนื่อง หากยังคงมีอาการท้องผูก หรือยังถ่ายอุจจาระเป็นเลือดบ่อยและมีปริมาณมาก ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ