ถามแพทย์

  • มีเสียงวิ้งในหู ไม่ปวด ไม่มีน้ำไหลออกมาจากหู ควรไปพบแพทย์หรือไม่

  •  Chayapol
    สมาชิก
    คือผมมีเสียงวิ้งในหู แต่ไม่ปวดหรือมีน้ำไหลออกจากหูนะครับ แค่มีเสียง ควรทำอย่างไรบ้างครับ อันตรายหรือเปล่าครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Chayapol,

                    อาการหูอื้อ หรือเสียงในหู (tinnitus)  หมายถึง การได้ยินลดลง หรือรู้สึกเหมือนมีอะไรอุดหูอยู่ หรือรู้สึกมีเสียงดังในหู ซึ่งอาจเป็นเสียงแหลม วี๊ดๆ คล้ายมีแมลงบินในหู หรือเสียงหึ่งๆ หรือเสียงตุบๆ ตามจังหวะชีพจร เสียงที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงชั่วคราวหรือเป็นอย่างต่อเนื่องและอาจเกิดขึ้นเพียงข้างเดียวหรือพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง ในผู้ป่วยบางราย เสียงอาจดังมากจนไปรบกวนและทำให้ขาดสมาธิหรือการได้ยินเสียง

                   สาเหตุของอาการหูอื้อ มีมากมาย ได้แก่ มีขี้หูมากเกินไป โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน สิ่งแปลกปลอมหรือแมลงเข้าหู หูอื้อที่เกิดหลังจากเป็นหวัด หูชั้นกลางอักเสบ การติดเชื้อซิฟิลิสหรือไวรัสที่ทำให้หูชั้นในอักเสบ อาการหูอื้ออาจเกิดขึ้นหลังจากการดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ หรือสูบบุหรี่ หูอื้ออาจเกิดจากประสาทหูเสื่อมในผู้สูงอายุหรือจากการฟังเสียงดังบ่อยๆ นอกจากนี้อาจเกิดจากภาวะเครียด วิตกกังวล อารมณ์ซึมเศร้า หรือเกิดจากนอนไม่หลับ การใช้ยาบางชนิดที่มีผลข้างเคียงต่อประสาทหู เช่น ยาต้านมาลาเรียคลอโรควิน ยาปฏิชีวนะอิริโทรไมซิน ยาเคมีบำบัดรักษามะเร็งบางชนิด เป็นต้น

                   หากมีอาการหูอื้อแบบได้ยินเสียงภายในร่างกายชัดกว่าปกติ (เช่นเสียงกลืนอาหาร เสียงลมหายใจ) อาจเกิดจากโรคภูมิแพ้ หากมีอาการหูอื้อแบบรู้สึกตุบๆ อาจเกิดจากมีเนื้องอกในช่องหู เป็นต้น

                    หากอาการหูอื้อของคุณ Chayapol เป็นอยู่เพียงแค่ชั่วคราว แล้วหายไป ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร แต่หากยังคงเป็นต่อเนื่อง หรือเป็นๆหายๆ และรบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรือมีอาการอื่นๆ ร่วม เช่น เวียนหัวบ้านหมุน ปวดหู มีหนองไหลจากหู เป็นต้น ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ

    ผมก็เป็นครับ เสียงดังในหูวิ้งๆๆๆๆ ตลอดเวลาเลยครับ มันดังตลอดยันนอนเลยครับ และจะรักษายังไงครับ รักษาแพงไหมครับ

    แพทย์หญิงสลิล ศิริอุดมภาส
    Jan 19, 2018 at 06:55 AM

    สวัสดีค่ะ คุณ Chayapol,

                    อาการหูอื้อ หรือเสียงในหู (tinnitus)  หมายถึง การได้ยินลดลง หรือรู้สึกเหมือนมีอะไรอุดหูอยู่ หรือรู้สึกมีเสียงดังในหู ซึ่งอาจเป็นเสียงแหลม วี๊ดๆ คล้ายมีแมลงบินในหู หรือเสียงหึ่งๆ หรือเสียงตุบๆ ตามจังหวะชีพจร เสียงที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงชั่วคราวหรือเป็นอย่างต่อเนื่องและอาจเกิดขึ้นเพียงข้างเดียวหรือพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง ในผู้ป่วยบางราย เสียงอาจดังมากจนไปรบกวนและทำให้ขาดสมาธิหรือการได้ยินเสียง

                   สาเหตุของอาการหูอื้อ มีมากมาย ได้แก่ มีขี้หูมากเกินไป โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน สิ่งแปลกปลอมหรือแมลงเข้าหู หูอื้อที่เกิดหลังจากเป็นหวัด หูชั้นกลางอักเสบ การติดเชื้อซิฟิลิสหรือไวรัสที่ทำให้หูชั้นในอักเสบ อาการหูอื้ออาจเกิดขึ้นหลังจากการดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ หรือสูบบุหรี่ หูอื้ออาจเกิดจากประสาทหูเสื่อมในผู้สูงอายุหรือจากการฟังเสียงดังบ่อยๆ นอกจากนี้อาจเกิดจากภาวะเครียด วิตกกังวล อารมณ์ซึมเศร้า หรือเกิดจากนอนไม่หลับ การใช้ยาบางชนิดที่มีผลข้างเคียงต่อประสาทหู เช่น ยาต้านมาลาเรียคลอโรควิน ยาปฏิชีวนะอิริโทรไมซิน ยาเคมีบำบัดรักษามะเร็งบางชนิด เป็นต้น

                   หากมีอาการหูอื้อแบบได้ยินเสียงภายในร่างกายชัดกว่าปกติ (เช่นเสียงกลืนอาหาร เสียงลมหายใจ) อาจเกิดจากโรคภูมิแพ้ หากมีอาการหูอื้อแบบรู้สึกตุบๆ อาจเกิดจากมีเนื้องอกในช่องหู เป็นต้น

                    หากอาการหูอื้อของคุณ Chayapol เป็นอยู่เพียงแค่ชั่วคราว แล้วหายไป ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร แต่หากยังคงเป็นต่อเนื่อง หรือเป็นๆหายๆ และรบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรือมีอาการอื่นๆ ร่วม เช่น เวียนหัวบ้านหมุน ปวดหู มีหนองไหลจากหู เป็นต้น ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ

     

    ผมก็เป็นอสการเสียงวิ๊ง..ในหูเหมือนกันครับเป็นตลอดทั้งวันจนใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้เลยครับ ไปหาหมอ หู คอ จมูก มา เชคหูและเข้าตรวจรับคลื่นความถี่ผลก็ออกมาปกติ คือเสียงที่ดังจะดังมากขึ้นเวลาออกกำลังกาย และไม่แน่ใจว่าเสียงรั้นดังมาจากด้านไหน เวลาอุดหูข้างซ้ายจะได้ยินเสียงวี๊ง..ที่ข้างซ้าย หากปิดข้างขวาก็จะได้ยินที่ข้างขวา