ถามแพทย์

  • มีก้อน 2 ก้อนที่ขาหนีบ มีอาการปวด กินยามา 5 วันแล้วยังปวด เกิดจากอะไรและควรทำอย่างไร

  •  Dkys Kjin
    สมาชิก
    คือก่อนหน้านี้หนูเริ่มมีอาการเจ็บที่บริเวณขาหนีบพอคลำดูรู้สึกว่ามีก้อนกลมๆสองก้อนเลยไปหาหมอ หมอบอกว่าเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบหมอเลยให้ยามากิน กินได้ประมาณ5วันเเล้วค่ะแต่หนูรู้สึกว่าที่บริเวณขาหนีบมันรู้ปวดขึ้นเรื่อยๆ หนูเลยอยากรู้ว่าต้องทำยังไงค่ะ สาเหตุเกิดมาจากอะไร

     สวัสดีค่ะ คุณ Dkys Kjin,

                        การมีก้อนบวมที่ขาหนีบและปวด อาจเป็น

                       1. ต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณขาหนีบโต มักเกิดจาก 

                            - การติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ เช่น เริม หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน ฝีมะม่วง เป็นต้น 

                             - การมีแผลอักเสบติดเชื้อบริเวณขาเป็น ๆ หายๆ หรือมีแผลเรื้อรังอยู่

                           ส่วนสาเหตุที่พบน้อยและมักมีอาการอื่นๆ มากกว่านี้ร่วมด้วย เช่น การติดเชื้อวัณโรค มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งของเซลล์ที่ผลิตเม็ดสี (malignant melanoma) เป็นต้น

                         2. เป็นฝีของชั้นผิวหนังและเนื้อเยื่อ ซึ่งจะมีอาการบวมแดง และหากมีรูเปิด ก็จะเห็นหนองไหลออกมา

                         3. ก้อนเนื้องอกของเนื่อเยื่อบริเวณนั้น เช่น ก้อนไขมัน ก้อนซีสต์ เป็นต้น แต่มักจะไม่มีอาการปวด 

                        4. ไส้เลื่อนชนิด femoral hernia ซึ่งจะพบเฉพาะในผู้หญิง เกิดจากลำไส้เคลื่อนผ่านรูเปิดที่ชื่อว่า femoral canal มากองเป็นก้อนตรงบริเวณที่ต่ำกว่าขาหนีบเล็กน้อย 

                        5. ไส้เลื่อนขาหนีบ (inguinal hernia) ส่วนใหญ่จะพบในผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็อาจพบได้บ้าง แต่ก็น้อยมาก ก้อนของไส้เลื่อนจะอยู่ตรงบริเเวณขาหนีบพอดี 

                        หากยาที่ทานอยู่คือยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ หากทานติดต่อกัยแล้ว ก้อนไม่มีแนวโน้มยุบลง และยังอาการปวดมากดังกล่าว แนะนำควรไปพบแพทย์เฉพาะทางอายุแพทย์เพื่อตรวจอีกครั้งค่ะ 

    Dkys Kjin  Dkys Kjin
    สมาชิก
    เป็นไปได้ไหมค่ะถ้าเหมือนหนูมีรอยบาดแผลที่บริเวณขา ซึ่งรอยบาดแผลที่มีเกิดจากรอยขีดข่วนของน้องเเมวแต่น้องเเมวก็ฉีดวัคซีนอยู่ตลอดซึ่งหนูก็ฉีดวัคซีนป้องกันด้วยค่ะ ปล.ตอนหนูไปหาหมอหมอบอกว่ารอยขีดข่วนเเมวก็เป็นส่วนหนึ่ง

    การมีบาดแผลที่ขา ที่เกิดจากแมวข่วน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ต่อมน้ำเหลืองโตได้ค่ะ ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไม่ได้เกิดจากเชื้อไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า 

    นอกจากนี้ อาจเป็นโรคแมวข่วน (cat scratch disease) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดแกรมลบชื่อว่า Bartonella Henselae ดังนั้น หากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าเกิดจากเชื้อชนิดนี้หรือไม่ ซึ่งการรักษาคือการทานยาปฏิชีวนะที่ตรวกับโรคต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่งค่ะ