ถามแพทย์

  • ติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือดและไต ได้ยาฆ่าเชื้อแล้วก็ยังไม่หาย

  •  Utoomporn Choorum
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ แฟนของหนูท้องเสียขับถ่ายเป็นเลือด หลังจากนั้น1วัน อาการก็เพิ่มขึ้นมา เขาปวดเมื่อยกล้ามเนี้อพลิกตัวลำบาก เพราะเวลาพลิกทีจะเจ็บๆเหมือนกล้ามเนื้ออักเสบ แสบร้อนภายใน ไม่ค่อยมีแรง แสบขัดเวลาปัสสะวะ ไม่มีไข้ ไปหาหมอ คุณหมอบอกว่า ติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือดและไต ความดันขึ้น ซึ้งปรกติวัดความดันที่ทำงานตลอดไม่เคยมี คุณหมอให้นอน. รพ ให้น้ำเกลือ และฉีดยาฆ่าเชื้อลงไปในน้ำเกลือ. นอน รพ 2วัน1คืน กลับบ้าน หมอนัดต้องไปฉีดยาทุกวันถึงวันที่10 นับจากวันแรกที่ได้รับยาตั้งแต่ วันที่2 แต่อาการไม่ดีขึ้นเลยค่ะ
    Utoomporn Choorum  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Utoomporn Choorum

    การติดเชื้อในกระแสเลือดนั้นมักเกิดจากการมีการติดเชื้อที่อวัยวะใดอวัยวะหนึ่งก่อนอย่างรุนแรงจนลุกลามเข้าไปในกระแสเลือด ทำให้ผู้ป่วยมีไข้สูง ชีพจรเต้นเร็ว กระสับกระส่าย และอาจเสียชีวิตในที่สุดหากไม่ได้รับการรักษา

    ในกรณีนี้น่าจะมีทางเดินอาหารติดเชื้อก่อนจากการท้องเสียถ่ายเป็นเลือด หรือทางเดินปัสสาวะติดเชื้อจากการมีปัสสาวะแสบขัด แพทย์มักจะต้องตรวจหาสาเหตุที่มาของเชื้อเพื่อให้ยาฆ่าเชื้อที่ตรงกับโรคนั้นๆ

    หากมีการติดเชื้อในกระแสเลือดอาจส่งผลให้ไตหยุดทำงานไปชั่วคราว ที่เรียกว่าไตวายเฉียบพลัน แพทย์จึงต้องให้สารน้ำทางหลอดเลือดเพื่อช่วยพยุงไตในช่วงนี้ไปก่อน

    แนะนำกลับไปพบแพทย์ตามนัดเพือฉีดยาฆ่าเชื้อและให้น้ำเกลือค่ะ เนื่องจากหากไม่ได้รับยาฆ่าเชื้อหรือให้สารน้ำอย่างเพียงพอ อาจมีภาวะช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือดถึงแก่ชีวิต อาการอาจจะค่อยๆดีขึ้นเมื่อระดับยาในเลือดสูงเพียงพอติดต่อกันอย่างน้อย 3-7 วันไปแล้ว ในระหว่างนี้จึงแนะนำกลับไปฉีดยาต่อก่อนค่ะ หากอาการไม่ดีขึ้นและกังวลควรปรึกษากับแพทย์ผู้รักษาโดยตรง แพทย์ผู้รักษาจะสามารถให้ข้อมูลได้อย่างละเอียดกว่าค่ะ