ถามแพทย์

  • ปวดท้องมาก มีตกขาวสีน้ำตาล หมอบอกเป็นอุ้งเชิงกรานอักเสบ และมีซีสต์ที่รังไข่ ทานยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น วันนี้มีถ่ายไป 2 รอบ เหนื่อย ต้องทำอย่างไร

  •  Akira Okaun
    สมาชิก
    ตามหัวข้อเลยค่ะ หนูเริ่มมีอาการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยในตอนแรกหมอวินิจฉัยว่าเป็นไส้ติ่ง จึงได้นอนรพ. แต่พอตรวจแล้วอาการไม่ใกล้เคียง เลยบอกว่าเป็นลำไส้อักเสบ แต่หลังจากนั้น อาการของหนูก็แย่ขึ้นเรื่อยๆ ช่วงปลายเดือนสิงหาคม หนูมีอาการปวดท้องมาก พร้อมกับมีเหมือนจะเป็นตกขาวสีน้ำตาล เหมือนเลือดเสีย หนูจึงไปหาหมอ หมอวินิจฉัยว่าเป็นอุ้งเชิงกรานอักเสบ เเละเหมือนจะเจอซีสต์ที่รังไข่ข้างขวา บริเวณที่หนูปวดบ่อยๆ และนัดมาดูอาการอีกครั้งตอนสิ้นเดือนสิงหา หนูไปตามนัด หมอคนนี้บอกว่าหนูเป็นรังไข่โต หากปวดท้องมากให้มาอีกครั้ง และให้ทานยาตัวเดิมไปก่อน ต้นเดือนกันยายน หนูปวดท้องมาก จนได้มารพ.อีกครั้ง ครั้งนี้ ตรวจเจอซีสต์ที่รังไข่ขวา จึงส่งตัวไปรพ.จังหวัด หมอเขาได้ตรวจภายในและอัลตร้าซาวด์ พร้อมกับตรวจมะเร็งปากมดลูก และนัดฟังผลเดือนตุลาคม หลังจากนั้นหนูมีอาการปวดท้องอีกครั้ง พร้อมกับมีอาการปัสสาวะบ่อย สีเข้มมาก ท้องอืด เบื่ออาหาร คลื่นไส้ น้ำหนักลง แต่ท้องน้อยบวม ป่อง หมอคนเดิม ทำการตรวจภายในและอัลตร้าซาวด์ เเละบอกให้กลับบ้านดูอาการอีกครั้ง พร้อมกับให้ยาแก้ปวด และมาตามนัดเดิม ในวันนี้หนูมีอาการปวดท้องถ่าย ถ่ายไป2รอบ มีสีน้ำตาลออกเขียว มีมูก และมีฟอง พร้อมกับอาการเหนื่อย จุกแน่นหน้าอก มือเท้าเย็น หนูอยากจะขอคำปรึกษาและแนะนำจากคุณหมอค่ะ ว่าหนูต้องทำยังไงต่อ หนูทรมานมาก ทำงานไม่ได้ จนต้องลาออกมาเพื่อรักษาตัว ขอคุณหมอช่วยตอบคำถามอาการของหนูด้วยนะคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Akira Okaun,

                        อาการปวดท้องมาก ปวดบ่อยๆ ท้องน้อยบวมป่อง มีตกขาวสีน้ำตาล ปัสสาวะบ่อย ท้องอืด เบื่ออาหาร คลื่นไส้ น้ำหนักลด อาจเกิดจาก

                         - การมีภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ (คือการมีมดลูกและปีกมดลูกรวมถึงรังไข่อักเสบ) ซึ่งจะทำให้มีอาการปวดท้องน้อย มีตกขาวที่ผิดปกติ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงอาจมีปัสสาวะผิดปกติ มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหารได้ ซึ่งสาเหตุมาจากการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม หรืออาจเป็นเชื้อโรคจากในช่องคลอดเองก็ได้ 

                        - เป็นมะเร็งของระบบสืบพันธ์ุ เช่น มะเร็งที่รังไข่ มะเร็งมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

                         หากแพทย์ได้ตรวจแล้ววินิจฉัยว่าเป็นอุ้งเชิงกรานอักเสบและมีซีสต์ที่รังไข่ อาการที่เป็นอยู่ ก็น่าจะเกิดจากการเป็นอุ้งเชิงกรานอักเสบได้ค่ะ ส่วนซีสต์ที่รังไข่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าเป็นลักษณะแบบไหน ซึ่งได้แก่

                        - ซีสต์ธรรมดา มักมีขนาดไม่ใหญ่มาก ไม่ทำให้เกิดอาการอะไร ไม่จำเป็นต้องรักษา

                    - ช็อกโกแลตซีสต์ เป็นซีสต์ที่เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มักทำให้มีอาการปวดท้องน้อย ปวดท้องขณะมีประจำเดือนมาก หากมีขนาดใหญ่ อาจทำให้ท้องบวมโตได้

                    - เนื้องอกที่เป็นซีสต์ เช่น serous cystadenoma, mucinous cystadenoma, teratoma เป็นต้น มักโตขึ้นเรื่อยๆ และทำให้มีอาการปวดท้อง ท้องบวมโตได้ 

                    - มะเร็งที่เป็นซีสต์ เช่น serous cystadenocarcinoma, mucinous cystadenocarcinoma เป็นต้น มักโตขึ้นรวดเร็ว มีอาการปวด ท้องบวมโต และทำให้มีเบื่ออาหาร น้ำหนักลดได้  

                    ทั้งนี้ หากแพทย์ได้นัดตรวจดูอาการ โดยตรวจภายในและอัลตราซาวด์ซ้ำแล้ว ก็ไม่น่าเกิดจากการเป็นมะเร็งรังไข่หรือมะเร็งมดลูกค่ะ เพราะหากเป็นมะเร็ง การตรวจอัลตราซาวด์ติดตาม ก็น่าจะเห็นการโตขึ้นของรังไข่และมดลูกชัดเจนขึ้นค่ะ

                   ดังนั้น ก็น่าจะเกิดจากการเป็นอุ้งเชิงกรานอักเสบมากกว่า แนะนำควรทานยาตามที่แพทย์จ่ายให้ และไปพบแพทย์ตามนัดเดิม และอาจสอบถามถึงโรคที่เป็นกับแพทย์ให้ชัดเจนอีกครั้งค่ะ

                    ส่วนการที่มีถ่ายอุจจารไป 2 ครั้ง มีมูกและฟองปน ก็น่าจะเป็นอาการท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งไม่น่าเกี่ยงข้องกับโรคทางระบบสืบพันธ์ุที่เป็นอยู่ค่ะ แต่เมื่อเกิดอาการท้องเสียขึ้น ย่อมทำให้เราเหนื่อย เพลียได้ และหากมีไข้ หรือร่างกายขาดน้ำ ก็จะทำให้เรามือเท้าเย็น ได้ค่ะ และการมีท้องเสีย ก็อาจยิ่งทำให้เราปวดท้องเพิ่มขึ้น จากโรคเดิมทางระบบสืบพันธ์ที่เป็นอยู่ได้ค่ะ 

                    ในเบื้องต้น ควรดื่มน้ำสะอาดให้มาก และดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย ส่วนอาหาร พยายามเลือกทานอาหารอ่อน อาหารที่ย่อยง่าย รสจืด เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด ของผัด และเนื้อสัตว์ เพราะย่อยยาก และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพราะจะยิ่งทำให้ถ่ายมากขึ้น นอกจากนี้ อาจทานคาร์บอน เพื่อช่วยการดูดซับสารพิษค่ะ

                    เนื่องจากลักษณะของอุจจาระที่มีมูกปน ก็น่าจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียมากกว่าไวรัส ดังนั้น แนะนำควรไปพบแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อให้ยาปฎิชีวนะฆ่าเชื้อทานค่ะ 

                     แต่หากมีอาการเหนื่อยมาก มือเท้ายังเย็น ทานอะไรไม่ได้ ใจสั่น ปัสสาวะออกน้อย สีเหลืองเข้ม ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือดค่ะ