ถามแพทย์

  • เป็นพังผืดเกาะที่ด้านหลังมดลูก รักษาโดยการฉีดยาคุมทุก 2 อาทิตย์ มีเลือดออกกะปริดกะปรอย เป็นเวลา 17 วันแล้วค่ะ หมอให้ทาน transamine เลือดก็ไม่หยุด ต้องทำอย่างไรคะ

  •  Thiranan Kuemgwong
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ พอดีหนูมีอาการปวดท้องประจำเดือนมากเลยไปหาหมอ ได้รับการตรวจภายในหมอบอกว่าเป็นพังผืดเกาะที่ด้านหลังมดลูก รักษาโดยการฉีดยาคุมทุก 2 อาทิตย์ ตอนที่ฉีดเข็มที่3 มีเลือดออกกระปริดกะปอยมีหน่วงๆท้อง ตอนนี้ฉีดได้เข็มที่4 แล้วค่ะแต่ยังมีเลือดออกกะปริดกะปรอยเหมือนเดิม เป็นเวลา 17 วันแล้วค่ะ หมอให้ทาน transamine เลือดก็ไม่หยุดค่ะ ต้องทำอย่างไรค่ะเลือดถึงจะหยุดไหล แล้วจะหายเป็นปกติมั๊ยค่ะมีเลือดออกหลายวันอยากหายคะ รบกวนตอบด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Thiranan,

                   ยาฉีดที่ใช้รักษาพังผืดในอุ้งเชิงกราน (หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่) เป็นชนิดเดียวกับยาที่ใช้ฉีดเพื่อคุมกำเนิด ประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสตินเพียงตัวเดียว หากฉีดเพื่อคุมกำเนิด จะมีทั้งชนิดฉีดทุก 8 สัปดาห์กับ 12 สัปดาห์ ซึ่งผลข้างเคียงของการฉีดยาคุม คือการมีเลือดออกกะปริดกะปรอย บางรายอาจมีเลือดประจำเดือนออกมากได้ โดยจะพบในช่วง 1-3 เข็มแรกของการฉีดยาคุม หลังจากนั้นประจำเดือนมักจะขาดหายไป

                  แต่ในกรณีของคุณ Thiranan ได้ฉีดยาทุก 2 สัปดาห์ จึงทำให้มีระดับฮอร์โมนโปรเจสติน สูงกว่าปกติ ซึ่งฮอร์โมนนี้จะทำให้พังผืดหรือเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญผิดที่ฝ่อตัวยุบหายไป แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้เยื่อบุปกติที่อยู่ในโพรงมดลูกฝ่อบางตัวลงมากด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดการหลุดลอกของเยื่อบุออกมาและกลายเป็นอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยได้

                  หากอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยดังกล่าวเป็นอยู่นาน การแก้ไขคือการเปลี่ยนระยะเวลาฉีดยาดังกล่าวให้ห่างออกมากขึ้น เช่น เปลี่ยนเป็นทุก 1 เดือน หรือทุก 3 เดือนหากอาการปวดท้องจากพังผืดดังกล่าวดีขึ้นแล้ว ร่วมกับการรับประทานยาเม็ดฮอร์โมนเอสโตรเจนในช่วงแรก ทั้งนี้แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ผู้รักษาก่อนนะคะ