ถามแพทย์

  • ฉีดยาคุมแบบ 3 เดือน แล้วมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เกิดจากอะไร

  •  Bum1531
    สมาชิก
    คือหนูฉีดยาคุมแบบ3เดือนหลังคลอด แล้วหลังจากนั้นก้อไม่ได้ไปตามที่หมอนัด พอหยุดฉีดแล้วเมนส์ก้อมาปกติแต่มาหลายวันและมาเยอะมากบางเดือนเป็น2ครั้ง จนลูกหนูได้1ขวบหนูถึงไปฉีดอีก ฉีดยาคุมแล้วหนูไม่เป็นเมนส์ค่ะมีติดกางเกงในหยดเดียววันเดียวก้อหาย แต่ครั้งนี้หนูไปฉีดหลังจากที่เมนส์หายแล้วประมาณ2-3วัน แต่หนูมีเมนส์มาก่อนที่หมอนัดฉีด หมอนัดวันที่2ธันวาแต่เมนส์มาวันที่25มานิดๆ พอวันที่28ก้อมาแบบเต็มผ้าอนามัยแบบธรรมธรรมดาค่ะก้อปกติจนวันที่หมดนัดฉีดยาคุม วันที่2ธันวาคม พอเช้าวันที่3ธันวาคมหนุลูขึ้นจากที่นอนเหมือนมีอะไรหลุดออกมาจากช่องคลอด เหมือนตอนเจะคลอดลุกค่ะ เลือดไหลทะลักออกจากผ้าอนามัยและกางเกงเตมพื้นไปหมด และมีก้อนเลือดเหมือนตับหมูค่ะก้อนใหญ่มากหลุดออกมา และหลุดออกมาทั้งวันค่ะ และมีอาการปวดท้องน้อยเหมือนตอนปวดท้องคลอดลูกค่ะ ปวดบีบมาเป็นระยะๆ อาการแบบนี้คือหนูแท้งรึเปล่าคะ
    Bum1531  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณBum1531

    การใช้ยาคุมแบบฉีดคุมกำเนิดทุก 1 หรือ 3 เดือนนั้น ควรเริ่มฉีดภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน  เพื่อให้สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เลย แต่หากเริ่มฉีดเวลาอื่นควรรอให้ครบ 7 วัน และเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง โอกาสตั้งครรภ์ขณะฉีดยามีน้อยกว่า 1% 

    ผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมชนิดทุก 3 เดือนที่พบได้บ่อยๆ คือการมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดแบบกระปริดกระปรอย ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ซึ่งการมีผลข้างเคียงจากยา ไม่ได้บอกว่ายาไม่มีประสิทธิภาพ

    หากยังฉีดยาคุมอยู่ โอกาสตั้งครรภ์ยังมีได้น้อยมาก แม้ไปฉีดไม่ตรงวัน แต่หากคลาดเคลื่อนไม่เกิน 2 สัปดาห์ ยาน่าจะยังมีประสิทธิภาพคุมกำเนิดต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามถ้าตอนนี้มีเลือดออกมามากผิดปกติ เป็นลิ่มเลือด ออกติดต่อกันหลายวัน ปวดหน่วงท้องน้อยด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นๆที่อาจเป็นไปได้เช่นการติดเชื้อหรือเนื้องอกของอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงต่อไป