ถามแพทย์

  • ฉีดยาคุมตั้งแต่อายุ 14 ปี ตอนนี้ 17 ปี ไม่มีประจำเดือนมา มีปัสสาวะบ่อย เป็นๆ หายๆ

  •  Jantararad
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ พอดีหนูไปฉีดยาคุมตั้งเเต่อายุ 14 เเต่ตอนนี้จะ17เเล้วค่ะ เเละตั้งเเต่ฉีดยาคุมกำเนิดประจำเดือนก็ไม่มาค่ะ เเต่มีอะไรกับเเฟนอาทิตย์ก่อนค่ะ เเต่ตั้งเเต่ฉีดมามีบางครั้งฉี่บ่อยทั้งกลางวันกลางคืนเเล้วก็หายไปค่ะ เเล้ว2-3วันที่ผ่านมาก็กลับมาฉี่บ่อยอีกครั้งค่ะ อยากทราบว่าหนูต้องทำไงค่ะหรือเป็นเรื่องปกติคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Jantararad,

                      ผลข้างเคียงของยาฉีดคุมกำเนิด อาจทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอย หรือมีเลือดออกนาน แต่เมื่อฉีดต่อเนื่องไปซักระยะ ประจำเดือนมักจะขาดหายไป ซึ่งเกิดจากผลของฮอร์โมนจากยาที่ไปทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกฝ่อบางลง แต่ก็ไม่ได้อันตรายอะไรค่ะ

                      ส่วนผลข้างเคียงอื่นๆ อาจทำให้มีปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ปวดท้องอ่อนเพลีย มีน้ำหนักเพิ่ม เป็นต้น 

                       สำหรับอาการปัสสาวะบ่อย ซึ่งเกิดขึ้นเรื่อยๆ นั้น ไม่ได้เกิดจากผลข้างเคียงของยาฉีดคุมกำเนิดโดยตรง แต่อาจเกิดจากสาเหตุ เช่น

                       - มีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ซึ่งการฉีดยาคุมกำเนิด มักทำให้ช่องคลอดแห้งและทางเดินปัสสาวะแห้งลง อาจส่งผลทำให้เกิดการติดเชื้อทานเดินปัสสาวะได้บ่อยขึ้น

                       - การดื่มน้ำมาก ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์

                       - มีนิ่วในกระเพะาปัสสาวะ

                       - การมีความเครียด วิตกกังวล 

                       - อากาศที่เย็น

                       หากในช่วงที่มีอาการปัสสาวะบ่อย แต่ไม่ได้มีอาการผิดปกติอื่นๆ ก็ให้ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ไม่กลั้นปัสสาวะ งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ และควรปัสสาวะก่อนและหลังการมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น หากอาการเป็นบ่อยๆ อีก หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้องน้อย ปัสสาวะเป็นเลือด เป็นต้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ