ถามแพทย์

  • เวลาจ้องคอมพิวเตอร์ 1-2 ชั่วโมงจะปวดหัว แต่จ้องโทรศัพท์นานจึงจะปวดหัว เป็นเพราะตาพร่ามัวหรือไม่

  •  theochea
    สมาชิก

    เวลาจ้องคอมชั่วโมงสองชั่วโมงเเล้วรู้สึกปวดหัวครับ
    แต่มาจ้องโทรศัพท์นานๆถึงจะปวดหัว

    เป็นเพราะสายตาผมพร่าใช่มั๊ยครับ เพราะผมมองอะไรก็มัวไปหมด
    หรือเกิดจากสาเหตุอื่น

    สวัสดีค่ะ คุณ theochea,

                    การใช้สายตาดูโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น อาการปวดตา ปวดรอบดวงตา  แสบตา เคืองตา  มองเห็นภาพซ้อน ตาพร่ามัว ปวดหัว มึนหัว ปวดคอ ปวดหลัง เมื่อยไหล่ โดยรวมเรียกว่า computer vision syndrome

                      โดยอาการตาพร่ามัว เกิดจากการมองภาพในระยะใกล้เป็นเวลานาน ประกอบกับแสงสะท้อนจากคอมพิวเตอร์หรือมือถือ และแสงสว่างที่ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการตามัวคล้ายคนสายตาสั้น คือมองภาพในระยะไกลไม่ชัด แต่จะเป็นเพียงชั่วคราว 

                     และเมื่อเกิดอาการทางสายตาต่างๆ ย่อมมีอาการปวดหัว มึนหัวตามมาได้ 

                     ส่วนอาการปวดคอ ปวดหลัง ปวดไหล่ ก็เกิดจากท่าทางที่ใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถืออย่างต่อเนื่องหรือไม่เหมาะสม และไม่มีการพักเปลี่ยนอิริยาบถเป็นระยะๆ 

                       คำแนะนำคือ ไม่ควรใช้สายตาดูโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยควรใช้หลัก 20-20-20 คือทุกๆ 20 นาที ให้พักสายตาจากคอมพิวเตอร์หรือมือถือ 20 วินาที และมองสิ่งที่อยู่ไกลๆ มากกว่า 20 ฟุต โดยไม่ต้องเพ่งมอง บริหารดวงตาด้วยการกลอกตาไปมาบ่อยๆ หากรู้สึกปวดตา เคืองตา ให้รีบพักการใช้สายตา และอาจใช้น้ำตาเทียมช่วย จัดตำแหน่งการมองที่เหมาะสม โดยควรให้จอคอมพิเตอร์หรือมือถืออยู่ห่างสายตามากกว่า 45 เซนติเมตร จออยู่ต่ำกว่าระดับสายตาเล็กน้อย มีแสงสว่างส่องเข้ามาทางด้านหลังพอเพียง  ปรับแสงสว่างจากจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือไม่ให้สว่างมากเกินไป ห้ามปิดไฟ หรือใช้คอมพิเตอร์และมือถือในที่มืด หมั่นกระพริบตาบ่อยๆ รวมถึง การเปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ พยายามใช้คอมพิวเตอร์และมือถือเมื่อจำเป็นเท่านั้น

                    แต่หากปฏิบัติตัวแล้ว หรือในวันที่ไม่ได้จ้องโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ แต่ยังคงมีอาการสายตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด มองเห็นภาพซ้อน ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจสายตาและโรคของดวงตาอื่นๆ ค่ะ หรือหากยังคงปวดศีรษะอาจต้องหาสาเหตุอื่นๆ ต่อไปค่ะ