ถามแพทย์

  • ฉีดยาคุมกำเนิดทุก 3 เดือน มีอาการปวดท้องน้อย มีเมือกเลือดในช่องคลอด

  •  Noknoy Sugsamran
    สมาชิก
    ดิฉันคุมกำเนิดโดยการฉีดทุกๆ3เดือนคะ ฉีดไปเมื่อต้นเดือนมกราคม แล้วมีเพศสัมพันกับแฟนหลั่งในตลอด แต่เมื่อวันที่ 1 รุ้สึกมีอาการปวดหน่วงๆท้องน้อยเหมือนมีประจำเดือน พอไปเข้าห้องน้ำดู แต่ก้อไม่มี แต่รุ้สึกเหมือนมีตกขาว เลยใช้นิ้วสัมผัสดูปรากฎว่า มันมีเมือกเลือดอะคะ เกิดจากอะไรคะ สงสัยมากคะ แล้วจะท้องมั๊ยอ่า

     สวัสดีค่ะ คุณ Noknoy Sugsamran,

                          หากฉีดยาคุมกำเนิดได้ถูกต้อง คือฉีดตามกำหนดนัด และฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อ ยาฉีดคุมกำเนิดจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% ดังนั้นโอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นถือว่าน้อยมาก

                         สำหรับการมีเมือกเลือดในช่องคลอด อาจเป็นเลือดประจำเดือนก็ได้ หรือเป็นอาการเลือดออกกะปริดกะปรอย ซึ่งเป็นผลข้างเคียงของการฉีดยาคุมกำเนิดก็ได้ค่ะ ซึ่งไม่ได้อันตรายและส่วนใหญ่เมื่อฉีดไปนานเข้า ประจำเดือนมักจะขาดหายไปในที่สุด

                           อย่างไรก็ตามหากมีเลือดออกมาปริมาณมาก มีปวดท้องน้อยมาก หรือมีเลือดออกทุกวัน ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์ค่ะ

                          

    สวัสดีค่ะคุณ Noknoy Sugsamran

    การฉีดยาคุมกำเนิด ยาจะออกฤทธิ์ ประมาณ เจ็ดวันหลังฉีดยาค่ะ ปกติในช่วง เจ็ดวันแรกหมอจะแนะนำให้มีการสวมถุงยางอนามัยก่อนนะค่ะ

    ถ้าเกินไปละส่วนใหญ่ยาจะออกฤทธิ์แล้วค่ะ

    แต่ผลข้างเคียงของการฉีดยาคุมกำเนิด มีดังนี้ค่ะ

    มีเลือดออกกระปริดกระปรอยได้ค่ะ

    ทำให้ขาดประจำเดือนได้ค่ะ

    มีอาการคัดตึงเต้านม ปวดหน่วงท้องน้อย สิวขึ้นได้ค่ะ

    ช่วงที่เริ่มฉีดยาใหม่ๆ อาจจะมีผลข้างเคียงของยาค่อนข้างมากอยู่ค่ะ

    แต่การตั้งครรภ์ไม่น่าจะมีค่ะ

    อีกอย่างค่ะ การที่ใช้มือ หรือ การร่วมเพศ ก็อาจจะทำให้มีการบาดเจ็บของช่องคลอดได้ค่ะ

    ให้ระวังค่ะ

    สังเกตุดูก่อนนะค่ะ ว่าเลือดหยุดไหม ถ้าเลือดหยุดก็ไม่มีปัญหาค่ะ

    ถ้าไม่แน่ใจพบแพทย์ค่ะ