อยากทราบว่าโรคเบาจืด มีผลอะไรกับเด็กบ้าง

สวัสดีค่ะ คุณ worachet,

            เบาจืด (Diabetes insipidus) หรือเรียกย่อว่า ดีไอ (DI) คือโรคที่ผู้ป่วยมีปัสสาวะปริมาณมากในแต่ละวัน มักมากกว่า 2.5 ลิตรต่อวัน (คนปกติจะประมาณวันละประมาณ 1 - 2 ลิตร) แต่ปัสสาวะในโรคนี้จะเจือจางมาก ปริมาณเกลือแร่และสารเคมีต่างๆ ในปัสสาวะจะน้อยกว่าปัสสาวะของคนปกติมาก ส่วนประกอบเกือบทั้งหมดจะเป็นแค่น้ำ ดังนั้นผู้ป่วยโรคนี้จึงมักมีอาการกระหายนำมาก และมักมีภาวะขาดน้ำร่วมด้วยเสมอ

            โรคเบาจืดแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ

             1.เกิดจากความผิดปกติทางสมอง เป็นชนิดพบได้บ่อยที่สุด เช่นเป็นเนื้องอกในสมองหรือต่อมใต้สมอง ได้รับการผ่าตัดสมอง อุบัติเหตุทางสมอง เป็นต้น

             2.เกิดจากความผิดปกติทางไต พบได้น้อย เกิดจากไตไม่ตอบสนองหรือตอบสนองได้น้อยต่อออร์โมนที่มาจากต่อมใต้สมอง เช่น จากโรคพันธุกรรม หรือเป็นผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น phenytoin

             3.เกิดจากความผิดปกติในการกระหายน้ำ พบได้น้อยมากๆ เกิดจากความผิดปกติของสมองส่วนไฮโปธาลามัส ซึ่งนอกจากทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนแล้ว ยังควบคุมเกี่ยวกับอารมณ์และจิตใจด้วย ซึ่งเมื่อเกิดความผิดปกติ ที่ก่อให้เกิดการกระหายน้ำอย่างมาก ผู้ป่วยจึงดื่มน้ำในจำนวนมาก จึงส่งผลให้ปริมาณปัสสาวะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

             4.ประเภทเกิดจากการตั้งครรภ์ พบได้น้อยมากเช่นกัน โดยในขณะตั้งครรภ์ รกจะสร้างเอนไซม์ชื่อ Vasopressinase ซึ่งเป็นเอนไซม์ทำลายฮอร์โมนที่มาต่อมใต้สมอง ซึ่งหากมีการสร้างเอนไซม์นี้ในปริมาณมาก จะส่งผลให้ปริมาณฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองลดลง ทำให้มีปัสสาวะมาก ซึ่งโรคจากสาเหตุนี้เป็นแค่เพียงชั่วคราว จะหายได้เองภายหลังการคลอด

             อาการของทุกประเภทจะเหมือนกัน คือ ปัสสาวะบ่อยครั้ง ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ละครั้งมีปริมาณมาก ร่วมกับกระหายน้ำมาก อ่อนเพลีย เนื่องจากเสียเกลือแร่ไปในปัสสาวะ (แม้ปัสสาวะจะเจือจาง แต่ผลรวมเกลือแร่ทั้งหมดที่สูญเสียไปในปัสสาวะแต่ละวันจะมีสูง) และจากขาดการพักผ่อน เพราะต้องตื่นมาปัสสาวะตลอดเวลา อาจมีปัสสาวะรดที่นอน กลั้นปัสสาวะไม่ได้

            ปัญหาที่สำคัญ คือภาวะขาดน้ำของร่างกาย ซึ่งอาการได้แก่ ตาโหล ผิวแห้ง มึนศรีษะ ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นเร็ว และอาการจากร่างกายขาดสมดุลของเกลือแร่ เช่น กล้ามเนื้อเป้นตะคริว อ่อนแรง วิงเวียน สับสน

            ดังนั้นหากภรรยาของคุณ worachet เป็นโรคเบาจืดที่เกิดจากการตั้งครรภ์ เมื่อคลอดลูกแล้วประมาณ 4-6 สัปดาห์ โรคก็จะหายไปได้เองค่ะ แต่หากเป็นโรคนี้มาก่อน อาการนอกจากที่กล่าวไป ก็จะขึ้นกับสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเบาจืดค่ะ

            สิ่งสำคัญคือในระหว่างที่ตั้งครรภ์ ต้องไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ และรักษาสมดุลของเกลือแร่ให้ได้ปกติ เพราะหากร่างกายขาดน้ำ จนความดันโลหิตต่ำ อาจส่งผลต่อลูกในท้องได้ค่ะ ดังนั้นแนะนำให้ปรึกษาถึงแนวทางการรักษากับสูติ-นรีแพทย์นะคะ แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ตรวจดูทารกในครรภ์ ตรวจเลือด และตรวจปัสสาวะ เพื่อประเมินถึงความรุนแรงของโรค ซึ่งในแต่ละคนอาจไม่เท่ากันค่ะ และอาจพิจารณาให้การรักษาด้วยยาค่ะ ซึ่งต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดค่ะ ยาที่ใช้รักษาโรคเบาจืดอาจมีผลต่อการให้นมบุตรหลังคลอดได้บ้าง แต่บางรายงานก็ไม่มีผลค่ะ 

           ขอเป็นกำลังใจให้การตั้งครรภ์และการคลอดเป็นไปโดยปลอดภัย ไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไรนะคะ