ถามแพทย์

  • มีประจำเดือน/เลือดออกมาระหว่างกินยาคุม ควรทำอย่างไร

  •  artcreamy3537@gmail.com
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ รบกวนสอบถามค่ะ หนูกินยาคมดิออ ชนิด 28 เม็ดเมือเดือนที่ผ่านมาก็กินไปได้ครึ่งแผงประมาน 14 เม็ดค่ะแล้วประจำเดือนก็มาวันที่ 31/5/62-2/6/62ค่ะ แล้วหนูก็หยุดกินยาคุมแผงนั่นไปเพราะเป็นประจำเดือน แล้วมาซื้อแผงใหม่กินเมือวันที่ 7/6/62 จนถึงวันนี้วันที่ 23/6/62 กินได้ประมาน16 เม็ดค่ะ แต่หนูมีอะไรกับแฟน แล้วก็มีเหมือนการเตือนของประจำเดือนสีน้ำตาลๆ ออกมาค่ะ แต่ก็ยังไม่ใช่ประจำเดือนที่เป็นเลือดสีแดงๆ อยากถามคุณหมอว่าแบบนี้เป็นอาการผิดปกติรึป่าวค่ะ หนูควรทำยังไงต่อดี ควรหยุดยาคุมแผงนี้ไหมแล้วรอประจำเดือนมารึกินต่อไปเลือยๆ จนครบกำหนดที่ยาคุมหมดแลเวจะเป็นประจำเดือน รบกวนสอบถามคุณหมอหน่อยค่ะ
    artcreamy3537@gmail.com  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ artcreamy3537@gmail.com

    การมีเลือดออกทางช่องคลอด อาจแบ่งได้เป็น

    1.เลือดออกแค่กระปริดกระปรอยติดกางเกงใน อาจจะเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมในช่วง 1-3 เดือนแรกได้ ไม่ควรเป็นเรื้อรัง หรือมีกลิ่นเหม็นคาวกว่าปกติ ไม่มีอาการปวดหน่วงท้องน้อย

    2.เลือดออกจากช่องคลอดที่ค่อนข้างมากจนต้องใช้ผ้าอนามัย อาจมีสาเหตุอื่นๆนอกเหนือจากผลข้างเคียงจากยาคุมเช่น มีการติดเชื้อในช่องคลอด ปากมดลูก หรือมดลูก มีการอักเสบของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่นหนองใน ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ มีเนื้องอกมดลูก เป็นต้น 

    ในกรณีนี้หากเป็นแค่เลือดออกระปริดกระปรอยอาจเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมแบบแผงรายเดือนได้

    หากเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน หรือรับประทานติดต่อกันมาเกิน 7 วันแล้วจึงจะมีเพศสัมพันธ์ มีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยมาก

    แนะนำสังเกตอาการ หากเลือดยังออกมาก ควรหยุดยาคุมแผงนี้ แล้วไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม 

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น ทำความสะอาดอวัยวะเพศภายนอกด้วยน้ำสะอาดวันละ 2 ครั้ง ไม่สวนล้างช่องคลอด งดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน