ข้อควรรู้ก่อนการเลือกซื้อน้ำดื่มอัลคาไลน์

หลายคนอาจจะเคยเห็นน้ำดื่มอัลคาไลน์ (Alkaline Water) หรือน้ำด่างผ่านตากันมาบ้างเวลาที่เข้าร้านสะดวกซื้อ แต่คนส่วนใหญ่คงไม่ทราบหรือไม่มั่นใจเกี่ยวกับเจ้าน้ำดื่มชนิดนี้ ไม่ว่าจะความเสี่ยง ผลข้างเคียง ความปลอดภัย รวมไปถึงประโยชน์ต่อสุขภาพที่ว่ากันว่า อาจช่วยชะลอความแก่ชรา ควบคุมค่า pH ในร่างกาย ล้างลำไส้ ลดน้ำหนัก หรือแม้กระทั่งป้องกันโรคเรื้อรังอย่างโรคมะเร็ง

น้ำดื่มอัลคาไลน์นั้นเกี่ยวข้องกับค่า pH ซึ่งเป็นค่าที่นำมาใช้วัดความเป็นกรดด่างของสสารต่าง ๆ ด้วยการกำหนดระดับ 0–14 โดยสสารที่มีค่า pH น้อยกว่า 7 จะมีฤทธิ์เป็นกรด ถ้ามีมากกว่า 7 จะมีฤทธิ์เป็นด่าง และถ้ามีเท่ากับ 7 จะถือว่ามีฤทธิ์เป็นกลาง โดยน้ำดื่มธรรมดาทั่วไปจะมีค่า pH อยู่ที่ 6.5–8.5 ในขณะที่น้ำดื่มอัลคาไลน์นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 8–9 ซึ่งจะอยู่ในช่วงของความเป็นด่างนั่นเอง  

ข้อควรรู้ก่อนการเลือกซื้อน้ำดื่มอัลคาไลน์

ทำความเข้าใจน้ำดื่มอัลคาไลน์ ก่อนเลือกซื้อ

หลายคนอาจสงสัยว่า น้ำดื่มอัลคาไลน์ต่างจากน้ำดื่มธรรมดาอย่างไร นอกจากค่า pH ที่ต่างกันแล้ว ยังมีข้อแตกต่างบางประการ อาทิ ส่วนประกอบ เนื่องจากน้ำดื่มอัลคาไลน์มีทั้งที่พบในแหล่งน้ำใต้ดินธรรมชาติ ซึ่งมีแร่ธาตุที่เป็นด่างอยู่แล้ว และแบบที่จำหน่ายทั่วไป ซึ่งผลิตจากกระบวนการทางเคมีอย่าง อิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) โดยผู้ผลิตอาจเสริมแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีความเป็นด่างเพิ่มเติม และบางยี่ห้ออาจเติมเกลือแร่บางชนิดลงไปด้วย 

ในด้านของรสชาติ น้ำดื่มอัลคาไลน์จะออกขมหรืออาจต่างจากรสชาติของน้ำประปาปกติ หากนำไปผสมกับเครื่องดื่มอย่างกาแฟหรือชาอาจทำให้รสชาติเปลี่ยนไปจากที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ ยังรวมถึงประเด็นด้านคุณประโยชน์ ความปลอดภัย และข้อควรรู้ต่าง ๆ ก่อนการเลือกซื้อน้ำดื่มอัลคาไลน์ โดยในเบื้องต้นจะมีรายละเอียดดังนี้

ข้อควรรู้ของน้ำดื่มอัลคาไลน์

โดยธรรมชาติของร่างกายมนุษย์จะการปรับค่า pH ในร่างกายให้คงอยู่ที่ 7–7.4 คือมีความเป็นกลางหรือด่างเล็กน้อยด้วยระบบกลไกต่าง ๆ อยู่แล้ว เช่น ไตช่วยกรองและปรับสมดุลของความเป็นกรด การหายใจออกจะนำคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาช่วยลดความเป็นกรดในกระแสเลือด และน้ำย่อยในกระเพาะอาหารช่วยทำให้อาหารและเครื่องดื่มมีสมดุลกรดด่างที่เหมาะแก่การย่อยอาหาร จึงอาจไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำอัลคาไลน์เพิ่มเติม 

อีกทั้งน้ำดื่มอัลคาไลน์อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอย่างโรคไต เพราะอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง ผู้มีปัญหาสุขภาพที่สนใจจะดื่มน้ำอัลคาไลน์ ควรปรึกษาแพทย์ถึงความปลอดภัยและปริมาณที่เหมาะสมก่อนการบริโภค 

ประโยชน์ของน้ำดื่มอัลคาไลน์

กล่าวกันว่า เนื่องด้วยความเป็นด่างที่สูง น้ำดื่มอัลคาไลน์จึงมีคุณประโยชน์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชะลอความแก่ชรา ล้างสารพิษในลำไส้ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ระบบย่อยอาหาร และระบบเผาผลาญ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกายมากกว่าน้ำทั่วไป ลดกรดในกระแสเลือด ลดการสูญเสียมวลกระดูก ช่วยในการลดน้ำหนัก หรือแม้กระทั่งต่อต้านโรคมะเร็ง 

นอกจากนี้ น้ำดื่มอัลคาไลน์ยังมีค่า ORP (Oxidation Reduction Potential) เป็นลบ ซึ่งเป็นค่าวัดที่บ่งบอกถึงความสามารถของน้ำในการต้านอนุมูลอิสระอันเกี่ยวเนื่องกับปัญหาสุขภาพ อย่างโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคมะเร็ง

โดยหากมีค่า ORP เป็นลบมาก ก็จะยิ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระมาก ทว่าการศึกษาวิจัยในปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อการรับรองประโยชน์ของน้ำดื่มอัลคาไลน์ในด้านต่าง ๆ เหล่านี้ ผู้บริโภคจึงควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย   

ผลข้างเคียงของน้ำดื่มอัลคาไลน์

แม้น้ำดื่มอัลคาไลน์จะไม่เป็นอันตราย แต่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายหลังการบริโภค เช่น 

  • ลดปริมาณกรดธรรมชาติในกระเพาะอาหารที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ เข้าสู่กระแสเลือด 
  • เพิ่มความเป็นด่างในร่างกาย อาจส่งผลต่อการย่อยอาหาร ผิวหนังระคายเคือง และมีค่า pH ในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป จนอาจเกิดภาวะเลือดเป็นด่างจากกระบวนการเผาผลาญ (Metabolic Alkalosis)
  • ลดปริมาณแคลเซียมในร่างกาย จึงอาจกระทบต่อสุขภาพกระดูก 

อย่างไรก็ตาม การดื่มน้ำอัลคาไลน์นั้นถือว่าปลอดภัยต่อสุขภาพ เนื่องจากอุดมไปด้วยแร่ธาตุจากธรรมชาติ แต่อย่าลืมว่า ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนการใช้น้ำอัลคาไลน์ในการรักษาหรือป้องกันปัญหาสุขภาพใด ๆ 

ผู้ที่สนใจจึงควรใช้ความระมัดระวังในการดื่ม ดื่มในปริมาณที่เหมาะสม หากพบความผิดปกติควรหยุดดื่มแล้วไปปรึกษาแพทย์ และที่สำคัญคือ ไม่ควรหลงเชื่อการกล่าวอ้างสรรพคุณต่าง ๆ ของน้ำดื่มอัลคาไลน์ หากพบผลิตภัณฑ์หรือเครื่องดื่มที่สงสัย สามารถปรึกษาสายด่วนอย.ได้ที่เบอร์ 1556