ถามแพทย์

  • เป็นโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ ทานยาไม่หาย จึงได้ฉีดยาไป หมอแจ้งว่าไม่ควรฉีดยาเกิน 2 ครั้ง ถ้ายังไม่หาย มีวิธีไหนรักษาให้หายขาด ผ่าตัดได้หรือไม่

  •  Montree Thirathanarojh
    สมาชิก
    ผมเคยเป็นมาก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน คุณให้ยามาทาน ทานยาจนหมดก็ไม่หายจึงฉีดยาให้ หลังจากฉีดยาแล้วหายปวดทันที แต่ไม่นานก็เริ่มมีอาการอีก คุณหมอแจ้งว่าไม่ควรฉีดยาเกิน 2 ครั้ง ผมจึงอยากทราบว่า ถ้าฉีดยาครบ 2 ครั้ง แล้วยังกลับมาปวดอีก จะมีสิธีการใดรักษาให้หายขาดได้บ้าง ผ่าตัดได้หรือไม่ ...ขอบพระคุณมากครับ...

    สวัสดีค่ะ คุณ Montree,

                  โรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ (De Quervain's disease) เป็นการอักเสบของปลอกหุ้มเส้นเอ็นนิ้วหัวแม่มือ บริเวณข้อมือ  ทำให้เกิดการบวมและหนาตัวของปลอกหุ้มเส้นเอ็น ซึ่งจะไปกดเบียดเส้นเอ็นของนิ้วหัวแม่มือ ทำให้มีอาการเจ็บปวดบริเวณข้อมือด้านข้างหัวแม่มือ อาการปวดจะเป็นมากขึ้นเมื่อกำมือ บิดข้อมือ หรือยกของ มักพบในผู้หญิงอายุ 30-50ปี  หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยโรครูมาตอยด์ 

                 การรักษา ประกอบด้วย

                 - หลีกเลี่ยงการใช้งานบริเวณข้อมือและนิ้วโป้งที่ต้องใช้ซ้ำๆไปซ้ำมาหรือออกแรงมาก เช่น การเขียนหนังสือ  พิมพ์แป้นคอมพิวเตอร์ การยกของหนัก งานบ้านต่างๆ การกวาดพื้น บิดเสื้อผ้างานครัว งานทำสวน งานช่าง อุ้มทารก เป็นต้น

                 - การเข้าเฝือกบริเวณแขนและนิ้วโป้ง หรือใส่อุปกรณ์พยุงข้อมือเพื่อให้ข้อมืออยู่กับที่ ลดการใช้งานของเส้นเอ็น

                 - ทานยาเพื่อลดอาการปวดและอักเสบ

                - ฉีดยาสเตียรอยด์บริเวณรอบเอ็นข้อมือที่ปวด ซึ่งควรฉีดไม่เกิน 2 ครั้งเหมือนที่คุณหมอแนะนำค่ะ  

                - การผ่าตัด จะทำเมื่ออาการรุนแรง ซึ่งได้แก่ มีการบวมของข้อมือ อาการเจ็บปวดรุนแรงขึ้น หรือ อาการไม่ดีขึ้นเมื่อได้รับการรักษาด้วยวิธีดังกล่าวข้างต้น  

                   การผ่าตัดสามารถทำโดยการฉีดยาชาบริเวณข้อมือ แพทย์จะทำการเลาะพังผืดที่หนาตัวและกดทับเส้นเอ็นออก ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้โดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล หลังผ่าตัดต้องหยุดพักการใช้งานข้อมือประมาณ 2 สัปดาห์  แล้วทำกายภาพและบริหารข้อมือและข้อนิ้วต่อ บางรายอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ 

                  ขอให้อาการของคุณ Montree ดีขึ้นและไม่กลับมาเป็นอีกนะคะ