ถามแพทย์

  • โดนหมากัดเมื่อ 13 ก.ค. หลังจากนั้น 3 สัปดาห์มีอาการแสบร้อนขาข้างที่ถูกกัด จะติดเชื้อไหม

  •  Tnt Todochi
    สมาชิก
    ผมโดนสุนัขจรจัดกัด วันที่ 13 ก.ค. 63 หลังจากโดนกัดประมาณ 3 อาทิตย์ ผมรู้สึกแสบร้อนขาข้างที่ถูกกัด แต่ไม่เคยแสบตรงแผลนะครับ แสบร้อน ประมาณ 1 อาทิตย์ ตอนนี้ดีขึ้นมา 2 อาทิตย์แล้ว แต่ก็ยังมีจ๊ดๆบ้างบางครั้ง แต่ผมฉีดวัคซีนครบแล้ว เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63 ผมอยากถามว่ายังมีโอกาศติดเชื้อไหมครับ กังวลมากครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Tnt Todochi,

                          หากหลังจากที่โดนสุนัขกัดในวันที่ 13 ก.ค. 63 ได้ไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าภายในวันนั้น หรือได้รับการฉีดเซรุ่มด้วย และได้ฉีดวัคซีนตามกำหนดนัดจนครบ 4 หรือ 5 เข็ม โอกาสที่จะเป็นโรคพิษสุนัขบ้านั้นถือว่าแทบไม่มีค่ะ

                          สำหรับอาการแสบร้อนบริเวณขาข้างที่ถูกกัด หากเป็นมาประมาณ 1 สัปดาห์ และเริ่มดีขึ้นแล้วในช่วง 2 สัปดาห์ต่อมา ก็ไม่ใช่อาการของโรคพิษสุนัขบ้าแต่อย่างใดค่ะ โดยอาการแสบร้อน ที่เกิดโดยไม่ได้มีอะไรมาสัมผัสผิวหนัง ไม่มีความผิดปกติอะไรที่ผิวหนัง ไม่ได้มีผื่นเกิดขึ้นตามมา ถือว่ามีการทำงานของเส้นประสาที่ผิดปกติ โดยอาจเกิดจากเส้นประสาททำงานผิดปกติชั่วคราว แต่ถ้าอาการเกิดขึ้นเรื่อยๆ หรือ เป็นตลอดเวลา อาจเกิดจากมีโรคบางอย่าง เช่น โรคปลายประสาทอักเสบที่เกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น ได้รับอุบัติเหตุบริเวณเส้นประสาทนั้นๆ เป็นโรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง โรคภูมิแพ้ตนเองชนิดต่างๆ มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ ติดสุราเรื้อรัง ขาดวิตามินบี 1 บี 6 บี 12 หรือไนอะซิน ได้รับวิตามินดีมากไป เคยเป็นงูสวัดบริเวณนั้น ติดเชื้อ HIV มีเนื้องอกที่เส้นประสาทบริเวณนั้น เป็นผลจากการได้รับยาเคมีบำบัด ได้รับสารพิษหรือโลหะหนัก  มีโรคที่ไขสันหลัง เช่น เนื้องอกที่ไขสันหลัง หรือมีโรคของสมอง เป็นต้น ดังนั้น หากอาการแสบร้อนยังคงเป็นต่อเนื่อง ไม่หายไป ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ