ถามแพทย์

  • เลือดแดงสดออกมาขณะทานยาคุมกำเนิด เกิดจากอะไร ควรทำอย่างไร

  •  Nicha_
    สมาชิก
    หยุดยาคุม1เดือนพึ่งเริ่มกินได้13วันค่ะ หยุดยาคุมประจำเดือนเคลื่อน5-6วัน หลังจากมีประจำเดือนและหายแล้ว ได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนก็มีเลือดออกทันที 5วัน เลือดออกมาเป็นๆหายๆ เลือดเป็นสีแดงนานๆไปเป็นสีดำคล้ำมีลิ่มเลือดออกมาด้วยค่ะเป็นอย่างนี้วนไป5วันค่ะ ฉี่ปนเลือด อาการแบบนี้เกิดจากอะไรคะไม่มีอาการเจ็บช่องคลอดเลือดออกก็ไม่เจ็บค่ะ สามารถกินยาแก้อักเสบ หายได้เองได้รึเปล่าคะ
    Nicha_  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ Nicha_

    อันนี้เข้าใจว่าเป็นเลือดที่ออกผิดปกติทางช่องคลอดระหว่างที่รับประทานยาคุมกำเนิดมาได้ 13 วันนะคะ

    เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดแบ่งได้ 2 แบบคือ

    1.เลือดออกแค่กระปริดกระปรอยติดกางเกงใน ไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าอนามัย อันนี้อาจเกิดจากอิทธิพลของฮอร์โมนในยาคุมกำเนิด เกิดได้ในช่วงที่เริ่มกินใหม่ๆ 1-3 แผงแรกได้ มักหายไปได้เอง ไม่ต้องทำอะไร ไม่มีอาการผิดปกติอย่างอื่นเช่นปวดหน่วงท้องน้อย ตกขาวมากผิดปกติ

    2.เลือดออกจากช่องคลอดจนต้องใช้ผ้าอนามัยชุ่มแผ่น เปลี่ยนบ่อยทุก 1-2 ชั่วโมง น่าจะมีสาเหตุอื่นๆเช่นติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่นหนองใน มีเนื้องอกที่มดลูก ปากมดลูก หรือเป็นมะเร็งปากมดลูก หรือเป็นภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์เช่นท้องนอกมดลูกหรือแท้ง ถ้าเป็นเลือดออกมาแบบนี้ร่วมกับปวดหน่วงท้องน้อย ตกขาวผิดปกติ ควรไปพบสูตินรีแพทย์ทันที แพทย์อาจต้องตรวจภายในร่วมกับอัลตราซาวน์หน้าท้องเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุ

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น สังเกตอาการว่าเลือดค่อยๆจางไปหรือไม่ งดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศภายนอก ไม่สวนล้างช่องคลอด สังเกตเรื่องรอบเดือนครั้งถัดไปว่ามาหลังจากรับประทานยาครบแผงหรือไม่

    ส่วนอาการปัสสาวะปนเลือดนั้น ถ้ามีเลือดออกมาเฉพาะแค่ตอนปัสสาวะ ร่วมกับมีปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะไม่สุด อาจจะเกิดจากสาเหตุเรื่องกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือกรวยไตอักเสบได้ แนะนำไปพบแพทย์เพื่อตรวจปัสสาวะเพิ่มเติมว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ค่ะ