ถามแพทย์

  • บิดามีเลือดออกในสมอง มีอาการชัก รักษาอย่างไร

  •  Tipaporn Khlibsri
    สมาชิก
    พ่อประสบอุบัติเหตุล้มหัวฟาดพื้นมาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบอกว่าไม่ต้องผ่าตัดนอนอยู่โรงพยาบาล 1 อาทิตย์หมอก็ให้กลับบ้านโดยไม่มียาเนื่องจากว่าคุณพ่อเป็นโรคเบาหวานคุณหมอบอกว่ามียาแล้วไม่ต้องกินยาเพิ่มอีกแต่พอกลับมาอยู่บ้านได้ประมาณ 4 อาทิตย์ก็มีอาการมือชาปากเบี้ยวข้างซ้ายก็นำไป โรงพยาบาลอีกครั้งคุณหมอให้นอนรอดูอาการ 3 วัน แล้วก็ให้กลับบ้านแต่ต่อมามีอาการชักประมาณ 1 นาทีก็หาย แต่ภายใน 1 วัน จะซักประมาณ 4-5 ครั้งไม่ทราบว่ามียากันชักไหมคะ
    Tipaporn Khlibsri  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณTipaporn Khlibsri

    ภาวะเลือดออกในสมองเป็นภาวะที่มีเลือดออกภายในเนื้อสมองหรือส่วนเยื้อหุ้มสมอง  ซึ่งอาจเกิดจากเส้นเลือดในสมองแตก หรือ ฉีกขาดจนทำให้มีเลือดไหลไปยังเนื้อเยื่อหรือเนื้อสมองบริเวณใกล้เคียง ทำให้เลือดที่ไหลไปนั้นกดทับเนื้อเยื่อและเกิดการจับตัวเป็นก้อนไปอุดตันหลอดเลือดและเนื้อเยื่อสมองส่วนต่างๆ จนทำให้การทำงานของสมองผิดปกติ เกิดได้ทั้งจากทั้งอุบัติเหตุหรือโรคประจำตัวเช่นความดันสูงมาเรื้อรังจนทำให้เส้นเลือดแตก

    อาการอาจมาด้วยการปวดหัว มีความผิดปกติทางสมองเช่นแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก ชาครึ่งซึก ซึม ปากเบี้ยว หน้าเบี้ยว พูดไม่ชัด หมดสติ ไม่รู้ตัว หรือในบางรายก็ทำให้มีอาการชักเรื้อรังได้

    ก่อนที่จะรับประทานยากันชักนั้น อาจะต้องถามแพทย์ผู้ดูแลก่อนว่าเลือดออกในสมองตอนนี้เยอะมากน้อยแค่ไหน มีก้อนเลือดใหญ่มากจนไปกดการทำงานของหัวใจและการหายใจทำให้ถึงแก่ชีิวิตหรือเปล่า จำเป็นต้องผ่าตัดหรือไม่ ถ้าไม่จำเป็นต้องผ่าตัดจะดูแลระยะยาวอย่างไร ในกรณีนั้นศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมองจะเป็นผู้พิจารณาเริ่มยากันชัก และต้องนัดมาติดตามอาการสม่ำเสมอเพื่อประเมินว่าเลือดในสมองไม่ได้ลุกลามมากขึ้นจากการทำ CT scan หรือที่เรียกว่าเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น รับประทานยาโรคประจำตัวไม่ขาด คุมเรื่องความดันให้ดี ไม่ให้สูงผิดปกติ คอยสังเกตอาการว่ามีความผิดปกติของระบบประสาทดังกล่าวไปขึ้นมาใหม่หรือไม่ ถ้าเริ่มมีอาการผิดปกติใหม่ๆ หรือชักซ้ำแม้จะได้ยากันชักอยู่ ต้องรีบพากลับไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเกิดจากเลือดออกมากขึ้นจนไปกดตำแหน่งอื่นๆของสมอง