มีเพศสัมพันธ์ กินยาคุมฉุกเฉิน ประจำเดือนมา ต่อมาปวดท้องน้อย มีเลือดออกกะปริดกะปรอย เกิดจากอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ Nahathai,

                อาการเลือดออกระหว่างรอบประจำเดือนหรือระยะห่างของรอบเดือนไม่สม่ำเสมอ (metrorrhagia) ถือเป็นอาการผิดปกติ ที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น 

               1. การตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ เช่น ท้องนอกมดลูก แท้งคุกคาม แท้งไม่ครบ ครรภ์ไข่ปลาอุก เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติแล้ว ยังทำให้มีอาการปวดท้องน้อยด้วย ทั้งนี้ ยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% และหากมีรอบประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ ประวัติของประจำเดือนอาจเชื่อถือไม่ได้ค่ะ

              2. ความผิดปกติที่มดลูกและรังไข่ เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกมีการติดเชื้อ มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ก้อนเนื้อหรือมะเร็งรังไข่ มะเร็งปากมดลูก นอกจากจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติแล้ว ยังทำให้มีอาการปวดท้องน้อยด้วยเช่นกัน 

              3. จากการใช้ยาฮอร์โมน เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด  รวมถึงยาบางอย่าง เช่น ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ยาต้านเศร้า เป็นต้น สำหรับยาคุมฉุกเฉินที่ใช้ไปตั้งแต่ 21 ก.พ. ไม่น่าส่งผลให้เกิดเลือดออกผิดปกติในช่วง 16-17 มี.ค.

              4. การทำงานผลิตฮอรโมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น มีภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ 

              5. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ เกร็ดเลือดทำงานผิดปกติ เป็นตับแข็ง ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เป็นต้น

             หากยังคงมีอาการเลือดออกกะปริดกะปรอย ร่วมกับปวดท้องน้อย แนะนำให้ลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูเป็นอันดับแรกค่ะ หากตรวจไม่พบ แต่ยังคงมีเลือดออกผิดปกติอยู่ โดยที่ไม่ได้ใช้ยาทานใดๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ