ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ วันต่อมามีอาการปวดเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะมีเลือดปน ทำอย่างไร

  •  yutikran
    สมาชิก
    คือก่อนหน้านี้พึ่งมีเพศสัมพันธ์กับแฟนครั้งแรกค่ะ กินยาคุมฉุกเฉินไป พอวันต่อมาก็ไม่มีอะไร ก็ปกติ แล้วตอนเย็น อยู่ดีดีก็ปวดปัสสาวะ พอไปปัสสาวะแล้วจะรู้สึกจี๊ดๆขึ้นมาตลอด ปัสสาวะไม่สุด เข้าห้องน้ำบ่อยมาก พอมองปัสสาวะก็จะเห็นว่ามีเลือดปนออกสีน้ำตาล บางครั้งมีลิ่มเลือดปนออกมา หลังๆมานี่คือกลั้นปัสสาวะไม่ไหว แต่ก็ยังปัสสาวะไม่สุดอยู่ดี จี๊ดทุกครั้งที่ปัสสาวะ เลือดไม่ค่อยออกแล้ว แบบนี้ต้องทำยังไงคะ มีวิธีอื่นมั้ยนอกจากไม่ไปพบแพทย์

    สวัสดีค่ะ คุณ yutikran,

                       อาการปวดเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย มีเลือดปนในปัสสาวะ ปัสสาวะไม่สุด กลั้นปัสสาวะไม่ได้ น่าจะเกิดจาก มีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ซึ่งสาเหตุของเชื้อ ได้แก่

                       - เชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ มักเกิดตามหลังการกลั้นปัสสาวะหรือดื่มน้ำน้อย รวมถึงหลังการมีเพศสัมพันธ์ พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังพบได้บ่อยในผู้ที่มีนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ มีเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ หรือมีก้อนเนื้องอกที่มดลูกโตจนมาเบียดกระเพาะปัสสาวะ 

                       - เชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม เริม ซึ่งนอกจากอาการปัสสาวะที่ผิดปกติแล้ว จะมีตกขาวที่ผิดปกติ และอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย รวมถึงอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

                       ในเบื้องต้นแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยขับเชื้อโรคออกมา หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์ ไม่กลั้นปัสสาวะ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนชั่วคราว หากอาการไม่ดีขึ้น อาจทานยา norfloxacin (ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะที่จัดอยู่ในกลุ่มยาควิโนโลน) หากไม่ได้มีการแพ้ยาในกลุ่มนี้ โดยให้ทานขนาด 400 mg ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้งติดต่อกัน 3 วัน แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ