หลังหยุดฉีดยาคุมแล้วมีเลือดออกผิดปกติ อยากทราบว่าเปนอันตรายไหมค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ ส้มหล่น ม่วง ไหมทอง

การที่ใช้ยาฉีดคุมกำเนิด ซึ่งตัวยาหลักคือ โปรเจสเตอโรนค่ะ ใช้ฉีดทุก 3 เดือน ดังนั้นเมื่อระหว่างการใช้ยา ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด คือ การยับยั้งการตกไข่ เเล้วทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางตัวลง ดังนั้นพอใช้ติดต่อกันนานๆ เกิน 6-12 เดือน อาจทำให้ไม่มีประจำเดือนมาได้ค่ะ

ทั้งนี้ หลังจากเลิกใช้ยาฉีดคุมกำเนิด ร่างกายจะเริ่มเกิดการปรับสมดุลของฮอร์โมน หลังจากนั้น จะเกิดการกลับมาตกไข่อีกครั้งค่ะ ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาได้นานถึง 9-12 เดือน กว่าจะกลับมาตกไข่ได้อย่างเหมือนเดิม 

ดังนั้น ในบางครั้ง จึงอาจเกิดการมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้บ้าง หลังจากการหยุดใช้ยาค่ะ ซึ่งส่วนมากจะเกิดจากการที่ยังไม่ตกไข่ จึงเกิดเลือดออกผิดปกติเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดการตั้งครรภ์ได้เช่นกัน ดังนั้น ถ้ามีเลือดออกผิดปกติ อาจต้องตรวจปัสสาวะเพื่อดูการตั้งครรภ์ด้วยค่ะ

ทั้งนี้ ถ้าเลือดออกนาน ออกติดต่อกัน มีอาการหน้ามืด ใจสั่น คล้ายจะเป็นลม เเนะนำให้ไปพบสูตินรีเเพทย์ค่ะ เพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติม ร่วมกับการให้ยาในการปรับฮอร์โมน และยาหยุดเลือดค่ะ  เเละเพื่อหาสาเหตุอื่นๆ ที่อาจเกิดได้ เช่น การติดเชื้อในโพรงมดลูก